ใครที่มีอาการ เลือดกำเดาไหล เกิดขึ้นบ่อยๆ ควรดูแบบไหนอันตราย อย่าชะล่าใจเด็ดขาดเพราะอาจเป็น สัญญาณเตือน! โรคร้ายแรง
เชื่อว่าทุกคนล้วนน่าจะเคยมีประสบการณ์ “เลือดกำเดาไหล” กันมาบ้าง หรือ เคยอยู่ในเหตุการณ์ที่มีเพื่อนหรือคนใกล้เกิดเลือดกำเดาไหลกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเลือดกำเดาไหลนั้นเป็นเพียงแค่อาการผิดปกติธรรมดาๆ ที่เกิดจากเส้นเลือดฝอยในจมูกแตก จากการแคะจมูก หรืออุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้น แต่ความจริงที่ทุกคนอาจเผลอลืมไปหรือไม่เคยรู้มาก่อนนั่นก็คือ เลือดกำเดาไหล ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนภัยที่บอกเราได้ว่า เราอาจกำลังจะป่วยเป็นโรคร้ายแรงอยู่ก็ได้ มีโรคอะไรที่ควรระวังบ้างมาดูเลย

เลือดกำเดาไหลบ่อยๆ อันตรายไหม
ปกติแล้วส่วนใหญ่ไม่ได้ร้ายแรง แต่ถ้าหากเกิดจากโพรงจมูกด้านหลังจะอันตรายกว่าทางด้านหน้า และมีอาการร่วมต่าง ๆ ดังนี้
- เลือดกำเดาไหลไม่หยุด มากกว่า 20 นาที หรือไหลออกข้างเดียวซ้ำ ๆ รวมทั้งออกมามีลักษณะเป็นลิ่มเลือด
- วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม
- หัวใจเต้นเร็ว การหายใจมีปัญหา
- หูอื้อ
- รู้สึกมีก้อนหรืออะไรติดที่คอ จมูก
- ไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
- หากมีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์โดยทันที
สัญญาณเตือนโรคร้ายแรง
วิธีการสังเกตอาการเลือดกำเดาไหล ว่าเป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่มากแค่ไหน สามารถสังเกตได้จากลักษณะการไหลและสีของเลือดที่ไหลออกมา โดยหาพบว่ามีอาการเลือดกำเดาไหลในลักษณะดังต่อไปนี้ การรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยคือหนทางที่ดีที่สุด
- เลือดกำเดาไหลบ่อย ไหลซ้ำบริเวณรูจมูกข้างเดิมข้างเดียวตลอด
- เลือดกำเดาไหลปริมาณมาก แม้จะเป็นครั้งเดียวแต่ก็ควรไปพบแพทย์
- เลือดกำเดาไหลในลักษณะเป็นก้อนลิ่มเลือด
- เลือดกำเดาไหลนานต่อเนื่องไม่หยุดภายใน 10 นาที
- สีของเลือดกำเดาถ้าเป็นสีแดงสด จะรุนแรงน้อยกว่าสีชมพูจางๆ
- เลือดกำเดาไหลร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น คัดจมูก หูอื้อ รู้สึกมีก้อนในโพรงจมูกหรือที่คอ
เลือดกำเดาไหล สัญญาณเตือนภัยโรคร้ายอะไรได้บ้าง?
อย่างที่ได้อธิบายแล้วว่า “เลือดกำเดาไหล” เป็นปลายทางที่เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งที่ผิดปกติในร่างกาย ดังนั้นเมื่อเกิดเลือดกำเดาไหลขึ้น โดยเฉพาะยิ่งเป็นบ่อยๆ จึงไม่ควรชะล่าใจ แต่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและเข้ารับการวินิจฉัยหาสาเหตุ ทั้งนี้เลือดกำเดาไหล อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิตได้ เช่น
- เนื้องอกในโพรงจมูก
- มะเร็งหลังโพรงจมูก
- วัณโรคหลังโพรงจมูก
- สำหรับในเด็กที่ร้ายแรงที่สุดเลยคือ โรคเนื้องอกในจมูก หรือ “Juvenile Nasopharyngeal Angiofibroma” ที่มักพบได้มากในเด็กผู้ชาย อายุประมาณ 7 – 19 ปี
เนื่องจากเลือดกำเดาไหล เป็นอาการที่พบเห็นกันได้บ่อยทั่วไป จึงทำให้คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้รู้สึกตระหนักว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของโรคร้ายได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เลือดกำเดาไหลอาจเป็นสัญญาณของโรคอันตรายอย่างมะเร็งในโพรงจมูก เนื้องอกในจมูก และวัณโรคหลังโพรงจมูกได้ ดังนั้นหากพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการเลือดกำเดาไหลผิดปกติ คือ ไหลบ่อย ไหลปริมาณมาก ก็ไม่ควรชะล่าใจ ควรรีบมาปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด จะปลอดภัยที่สุด
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY