เตือนควรรู้ก่อนทาน! ยาลดความอ้วน หรือ ยาดักจับไขมัน อันตรายหรือไม่ มีข้อควรระวังในการรับประทาน ใครบ้างที่ควรทานมาดู
ยาลดการดูดซึมไขมัน (Orlistat) จัดเป็นยาสำหรับการรักษาในระยะยาวในผู้ป่วยโรคอ้วน หรือ ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกิน รวมทั้งผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสัมพันธ์กับความอ้วน โดยใช้ร่วมกับอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ ออกฤทธิ์ป้องกันไม่ให้ไขมันบางส่วนจากอาหารที่รับประทานเข้าไปถูกดูดซึมในทางเดินอาหาร โดยให้รับประทานยาพร้อมกับอาหารหลักที่มีไขมันหรือหลังอาหารไม่เกิน 1 ชั่วโมง หลายคนให้ความสนใจอย่างมากและยังคงมีคำถามคาใจกันอยู่ว่าอันตรายหรือไม่ วันนี้มาหาคำตอบกัน

หลักการทำงานของยา
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าโดยปกติแล้วร่างกายคนเราจะสามารถดูดซึมไขมันได้เมื่อไขมันถูกย่อยให้อยู่ในขนาดที่เล็กลง เปรียบเสมือนการใช้กรรไกรตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ แต่เมื่อร่างกายทานยาดักจับไขมันเข้าไป ยาตัวนี้จะมีหน้าที่ไปจับกรรไกรให้ไม่สามารถทำงานได้ แล้วไขมันชิ้นใหญ่จะไม่ถูกย่อยให้เป็นชิ้นเล็กเหมือนปกติ ร่างกายจึงไม่สามารถดูดซึมไปใช้งานได้ และค้างอยู่ในลำไส้จากนั้นจะถูกขับถ่ายออกมา แต่ปัญหาคือปกติแล้วอาหารที่อยู่ในลำไส้ร่างกายจะทำการดูดน้ำออกเพื่อทำให้แห้ง แต่เมื่อมีไขมันค้างอยู่ร่างกายจะไม่สามารถดูดน้ำได้ อุจจาระจึงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างเหลว และมีความมันอยู่
ข้อควรระวัง
- หากมื้อไหนไม่ได้รับประทานอาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมัน สามารถเว้นการกินยาลดการดูดซึมไขมันได้
- ห้ามปรับขนาดยาให้มากขึ้นหรือลดลงกว่าที่แพทย์กำหนดหรือที่ระบุไว้ในเอกสารกำกับยา
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดการดูดซึมไขมันในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีภาวะท่อทางเดินน้ำดีอุดตัน และมีการดูดซึมอาหารผิดปกติ
- ยาลดการดูดซึมไขมันมีผลต่อการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน (Vitamin A,D,E และ K) และเบต้าแคโรทีนของร่างกาย ทำให้ได้รับวิตามินดังกล่าวลดลง
- ยาลดการดูดซึมไขมันมีผลต่อยาที่ละลายในไขมัน เช่น รักษาอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ (Amiodarone) และยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporine) ทำให้ระดับยาดังกล่าวในเลือดลดลง ลดประสิทธิภาพในการรักษา
- ยาลดการดูดซึมไขมันรบกวนการดูดซึม Vitamin K จึงอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Warfarin) และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกได้
สรุปผลข้างเคียงของยา
อุจจาระเล็ดออกมาได้ง่ายกว่าปกติเพียงแค่ไอหรือจาม มีปัญหาในเรื่องของกลิ่นอุจจาระที่แรงกว่าปกติ ระดับวิตามินในเลือดต่ำกว่าปกติ และอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย ระบบขับถ่ายผิดปกติไป เพราะมีแบคทีเรียอยู่และน้ำตาลหรืออะไรก็ตามที่ไม่ถูกย่อยเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดอาการดังกล่าว
แต่โดยปกติแล้วร่างกายจะดูดซึมตัวยาน้อยกว่า 1% ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงนัก อย่างเช่นระดับวิตามินในเลือดที่ต่ำลง จากผลวิจัยก็พบว่าในร่างกายของคนที่ปกติหรือแข็งแรงดีก็ไม่ทำให้ตกอยู่ในภาวะขาดวิตามินแต่อย่างใดและยังคงยืนยันว่าการลดน้ำหนักที่ดีคือการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และปรับพฤติกรรมของตัวเองจะดีที่สุด
แหล่งที่มา อาหารและยา และ rama.mahidol
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY