รู้หรือไม่? โรคที่ผู้ชายเป็นบ่อยคือโรคอะไร และมีสาเหตุมาจากอะไร?

เพราะเรื่องสุขภาพไม่ควรละเลย รู้หรือไม่? คุณผู้ชายเสี่ยงเป็นโรคอะไรมากที่สุด วันนี้มีคำตอบ!

เรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะเพศไหน วัยไหน ก็ไม่ควรละเลย ควรให้ความสำคัญและหมั่นดูแลสุขภาพตัวเองและคนที่คุณรัก เริ่มเช็คได้ง่ายๆด้วยการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเช็กความพร้อมของร่างกาย หากพบข้อพกพร่อง หรือโรคต่างๆ ควรรีบรักษาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม

วันนี้ ไบรท์ทูเดย์ (Bright Today) จะพาทุกคนมารู้จัก 5 โรคที่พบได้บ่อยกับคุณผู้ชาย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมีมากมาย บางพฤติกรรมเป็นความเสี่ยงที่คุณอาจจะทำอยู่เป็นประจำ ถ้าพร้อมแล้วไปเช็กกันเลย!

• สัญญาณเตือน! “โรคหัวใจขาดเลือด” ตรวจเช็กให้รู้ทันโรค

• “ยาปลุกเซ็กส์” ไม่จำเป็นอย่ากิน! ก่อนใช้ยาควรต้องรู้

• “โรคกระดูกพรุน” สารพัดปัญหาของผู้สูงอายุ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกคน

5 โรคฮิต ที่พบได้บ่อยที่สุดของคุณผู้ชาย

1. โรคต่อมลูกหมากโต

สาเหตุ

ต่อมลูกหมาก เป็นต่อมที่อยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะ และอยู่ล้อมรอบท่อปัสสาวะ ซึ่งจะหยุดเจริญเติบโตหลังอายุ 20 ปี จนเมื่ออายุประมาณ 45 ปี มีโอกาสที่ต่อมลูกหมากจะเพิ่มขนาดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถหาหลักฐานยืนยันถึงสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่คาดว่าเกิดขึ้นได้ด้วย 2 ปัจจัย คือ

• เกิดจากระดับฮอร์โมนเพศชายกระตุ้นให้เซลล์ต่อมลูกหมากแบ่งตัวมากขึ้น เกิดเป็นภาวะต่อมลูกหมากโตกว่าปกติ
• เกิดจากพันธุกรรม 

อาการ

ในส่วนของอาการของโรคต่อมลูกหมากนั้น ถ้าอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงมาก จะมีอาการดังต่อไปนี้

• ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้
• ถ่ายปัสสาวะบ่อย
• ปัสสาวะไหลไม่แรง หรือต้องเบ่งปัสสาวะช่วย
• ถ่ายปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน มากกว่า 1-2 ครั้ง

แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนจนต่อมลูกหมากโต จะนำไปสู่อาการเหล่านี้

• ปัสสาวะไม่ออก
• ทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ
• นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
• ไตเสื่อมหรือกระเพาะปัสสาวะเสื่อม
• ปัสสาวะเป็นเลือด

การป้องกันและรักษา

โรคต่อมลูกหมากโตสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ ซึ่งสำหรับผู้ที่มีอาการต่อมลูกหมากโต จะมีแนวทางในการรักษา ดังนี้

• เข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ถ้ามีอาการของโรคเพียงเล็กน้อย สามารถรักษาด้วยการใช้ยา และติดตามอาการ 
• หากรักษาด้วยยาไม่หาย และมีอาการต่อมลูกหมากโต ต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด

2. มะเร็งต่อมลูกหมาก

สาเหตุ

โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นหนึ่งในโรคที่ผู้ชายเป็นบ่อย ที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่มีปัจจัยจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการรับเลือกรับประทานอาหารประเภทสัตว์เนื้อแดง ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคได้ 

อาการ

ในส่วนอาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นปัญหาสุขภาพผู้ชายที่มักไม่แสดงในระยะแรก แต่เมื่อมะเร็งขยายตัวมากขึ้น จะไปกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้การปัสสาวะไม่เป็นปกติ ปัสสาวะขัด หรือปัสสาวะไม่สุด ปวดปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน ร้ายแรงถึงขั้นปัสสาวะมีเลือดปนได้

แต่สิ่งที่ร้ายแรงมากที่สุดนั้น คือเมื่อมะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่น จนทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะที่มะเร็งแพร่กระจายไปถึง เช่น มีอาการปวดกระดูก เพราะมะเร็งแพร่กระจายไปที่กระดูกนั่นเอง

การป้องกันและรักษา

หากต้องการจะป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคที่ผู้ชายเป็นบ่อยอย่างมะเร็งต่อมลูกหมาก ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการดื่ม รวมถึงควรเข้ารับการคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่ออายุเข้าสู่วัย 50 ปี เพราะถ้าพบว่ามีอาการของโรคเร็ว ก็จะสามารถรักษาให้หายได้ โดยมีแนวทางในการรักษา ดังนี้

• เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากแล้ว ผู้ป่วยต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อกำจัดแหล่งมะเร็งทิ้ง
• หลังจากนั้น แพทย์จะวินิจฉัย เพื่อให้การรักษาด้วยรังสีบำบัด และฮอร์โมนบำบัดต่อไป

3. โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

สาเหตุ

อีกหนึ่งโรคที่ผู้ชายเป็นบ่อยอย่างโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความเครียด การไหลเวียนของเลือดบริเวณอวัยวะเพศไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผลข้างเคียงจากการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง หรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และนำไปสู่การทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย

อาการ

อาการของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คืออวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว ขาดความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ และส่งผลให้ความมั่นใจในตัวเองลดลงอีกด้วย

การป้องกันและรักษา

ในส่วนของการป้องกันโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และผ่อนคลายจิตใจจากความเครียด

สำหรับวิธีในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือ

• การใช้กระบอกสุญญากาศ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดภายในอวัยวะเพศชาย กระตุ้นให้อวัยวะเพศแข็งตัว
• การรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
• การใช้ยาฉีด หรือการผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียม

4. โรคความดันโลหิตสูง

สาเหตุ

โรคความดันโลหิตสูง ไม่ได้เป็นเพียงโรคที่ผู้ชายเป็นบ่อย แต่ยังสามารถพบได้ในผู้หญิงเช่นกัน ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากภาวะแรงกดดันในหลอดเลือดแดงที่มีค่าสูงเกินปกติ โดยมีปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค คือ

• อายุที่เพิ่มมากขึ้น
• น้ำหนักตัวที่มากเกินไป หรือโรคอ้วน
• การรับประทานอาหารที่มีรสชาติเค็มจัด

อาการ

ในส่วนของอาการของโรคความดันโลหิตสูง คือปวดมึนท้ายทอย ตึงที่ต้นคอ เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย ใจสั่น นอนไม่หลับ มึนงง แลรู้สึกเหนื่อยง่ายผิดปกติ ถ้าปล่อยให้มีอาการนาน ๆ และไม่รับการรักษา จะส่งผลให้หัวใจ สมอง ไต หลอดเลือด และตา ถูกทำลายได้

การป้องกันและรักษา

สำหรับการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การพยายามลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเค็ม หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  

ส่วนผู้ที่ป่วยโรคความดันโลหิตสูง นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว จำเป็นต้องรักษาด้วยการรับประทานยาร่วมด้วย 

5. โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ

สาเหตุ

โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นอีกหนึ่งโรคที่ผู้ชายเป็นบ่อย มีสาเหตุเกิดจากการขับถ่ายปัสสาวะไม่หมด หรือการกลั้นปัสสาวะจนตกตะกอนสะสมกลายเป็นก้อนแข็งคล้ายก้อนกรวด อยู่ภายในระบบทางเดินปัสสาวะ

อาการ

ส่วนอาการของโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ จะแตกต่างกันออกไป ตามแต่ว่าก้อนนิ่วนั้นไปตกค้างอยู่ในบริเวณใด

กรณีที่มีก้อนนิ่วในไตและท่อไต จะส่งผลให้เกิดอาการปวดรุนแรงบริเวณหลังและข้างลำตัว โดยอาการปวดจะเกิดขึ้นเป็นช่วง ๆ บางครั้งอาจปวดบริเวณช่องท้องด้านล่างไปจนถึงขาหนีบ และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ และหนาวสั่น

กรณีที่มีก้อนนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองเรื้อรัง ปัสสาวะน้อย ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ปัสสาวะมีเลือดปน หรือมีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ 

การป้องกันและรักษา

สำหรับแนวทางในการป้องกันโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ คือควรดื่มน้ำมาก ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และไม่กลั้นปัสสาวะ รวมถึงไม่รับประทานอาหารที่มีสารตกตะกอนมากเกินไป

ในส่วนของวิธีการรักษาโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ คือ

• หากก้อนนิ่วมีขนาดไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายขับนิ่วออกมาเองตามธรรมชาติ
• รักษาโดยการผ่าตัดส่องกล้องสลายนิ่ว 

ขอบคุณข้อมูล โตเกียวมารีนประกันชีวิต

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY