อยากกินแต่ก็กลัว อยากลองแต่ก็ไม่รู้ใช้อย่างไร สาวๆคนไหนงง ฟังทางนี้!! ตอบข้อสงสัยสุดฮิต เกี่ยวกับ ยาเลื่อนประจำเดือน ที่นี่จะได้กินอย่างถูกต้อง
ปัญหาโลกแตกสำหรับสาวๆ คงนี้ไม่พ้นเรื่องของประจำเดือน นอกจากจะรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายด้วยแล้วนั้น บางคนยังมาพร้อมกับอาการท้องเสีย ปวดตัว ปวดท้อง อยากกินนั้นอยากกินนี้ไปหมด อีกทั้งอาจมาในวันสำคัญๆ เช่น งานวันเกิด ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปทะเล เล่นสงกรานต์ เชื่อวเถอะว่าประจำเดือนจะเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เราเทงาน หรือไม่สนุกกับกิจกรรมนั้นๆ บางทีก็ไม่อยากให้มันมา แต่พอเอาเข้าจริง ประจำเดือนไม่มา ก็เครียดอีก…กุท้องปะวะ???? เกิดเป็นหนึ่งชังแสนจะลำบาก
ดังนั้นวิธีแก้มันก็มีอยู่หลายวิธี หากปวดท้อง ก็กินยาแก้ปวดดักไว้ก่อน แต่หากกินมาไปก็ไม่ดีต่อร่างกาย แทนแบบพอดี เคยได้ยินคำว่า กินหนึ่งครั้ง ต้องกินตลอดไป หรือไม่ ดังนั้น ทานแตาพอดี ปวดมากแนะนำให้ไปหาหมอ หรือบางคนใช้วิธีการนับวัน แต่วิธีนี้ก็อาจจะตรงบ้างไม่ตรงบ้าง อีกหนึ่งวิธีคือ การทานยาเลื่อนประจำเดือน
ยาเลื่อนประจำเดือน คืออะไร
ยาเลื่อนประจำเดือน หรือ ยาเลื่อนเมนส์ เป็นฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสเตอโรน จึงช่วยทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวนั้นไม่หลุดออกมา สำหรับผู้ที่ต้องการเลื่อนประจำเดือน ต้องรู้วันที่มีประจำเดือนของตนเองที่แน่นอน เช่น ประจำเดือนมาทุกๆ วันที่ 29 และมาเป็นประจำ 2-3 วัน แสดงว่าไข่ตกประมาณวันที่ 14-15 ดังนั้นหากอยากเลื่อนประจำเดือนออกไปก็ต้องทำให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนยังคงอยู่ โดยการบังคับธรรมชาติให้สร้างฮอร์โมนมาในช่วงกลางรอบเดือน ซึ่งทำได้ด้วยการกินฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเข้าไป ตามจำนวนวันที่ต้องการเลื่อน จากนั้นจึงค่อยหยุดกินยา ซึ่งทันทีที่หยุดยา เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะหลุดออกมาเป็นประจำเดือน
- ยาเลื่อนประจำเดือน ไม่สามารถใช้ทดแทนยาคุมกำเนิดได้ เนื่องจากไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์
- ยาเลื่อนประจำเดือน จะได้ผลดีสำหรับผู้ที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอ และรู้วันที่จะมีประจำเดือนที่แน่นอนเท่านั้น
- ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดเสียก่อน เนื่องจากการกินยาเลื่อนประจำเดือนอาจบดบังอาการของโรคได้
ตอบข้อสงสัยสุดฮิต เกี่ยวกับ “ยาเลื่อนประจำเดือน”
- เริ่มกินยาเลื่อนประจำเดือน ก่อนประจำเดือนมา 1 วัน ได้หรือไม่
- การกินยาก่อนมีประจำเดือนแค่ 1 วัน หรือตอนที่กำลังมีประจำเดือน อาจมีผลช่วยลดปริมาณ และจำนวนวันของการมีประจำเดือน
- ควรเริ่มกินอย่างน้อย 3 วัน ก่อนวันที่จะมีประจำเดือน
- กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง (เช้าและเย็น) หรือวันละ 3 ครั้ง (เช้า กลางวัน และเย็น)
- สามารถใช้ยาเลื่อนประจำเดือนในการคุมกำเนิด ได้หรือไม่
- ยาเลื่อนประจำเดือน ใช้ในการเลื่อนประจำเดือน ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์
- สามารถกินยาเลื่อนประจำเดือนติดต่อกัน ได้หรือไม่
- กินยาเลื่อนประจำเดือนติดต่อกันได้ แต่ไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์
- เพราะอาจทำให้รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
- หากไม่แน่ใจว่าท้อง สามารถกินยาเลื่อนประจำเดือน ได้หรือไม่
- ไม่ได้ เพราะอาจมีผลต่อการพัฒนาอวัยวะเพศ ภายนอกของทารกในครรภ์ได้ หรืออาจทำให้ทารกพิการได้
การใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชทุกครั้ง ไม่ควรชื่อยามาใช้เอง
ขอบคุณข้อมูล กระทรวงสาธารณะสุข / โรงพยาบาลสมิติเวช
