มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องมีปัญหานี้ ชาวออฟฟิศซินโดรม มาดู! วิธีการปรับท่านั่ง ไม่ให้ ปวดคอ บ่า ไหล่ หลังส่วนบนและล่าง เอว
หลายคนต้องเจอปัญหานี้อยู่แน่นอน เพราะสังคมไทยของเราชอบทำงานกันหนักมากทำวันละ 6-8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยหรือบางคนถึงขนาดทำงานเพลินจนลืมดูเวลา ลืมทานอาหาร หรือลุกออกไปเดิน ซึ่งแน่นอนว่าการที่เรานั่งทำงานนานๆ ใช้งานกล้ามเนื้อเดิมตลอดเวลาเป็นเรื่องไม่ดีอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้พนักงานออฟฟิศหลายๆ คนจึงต้องเจอกับ อาการออฟฟิศซินโดรม ก็คือ การปวดคอ บ่า ไหล่ หลังส่วนบนและล่าง เอว นั่นเอง วันนี้เราจึงมาแชร์วิธีการปรับท่านั่งไม่ให้เกิดอาการปวดเหล่านี้อีก

“ทุกการเติบโต ย่อมปวดหลังเสมอ” วลียอดฮิตจากชาวออฟฟิศ (ซินโดรม) อันเนื่องมาจากรูปแบบการทำงานที่พบเห็นได้ทั่วไปในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 ทศวรรษที่ผ่านมาของพนักงานออฟฟิศซึ่งมีลักษณะการทำงานที่เน้นไปที่การนั่งทำงานอยู่กับที่ ในอิริยาบถเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน การนั่งอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน รวมถึงตำแหน่งการนั่งและโต๊ะทำงานอยู่ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสม ซึ่งบอกเลยว่าสมัยนี้ส่วนใหญ่ที่ทำงานจะใช้โต๊ะที่สามารถปรับระดับได้ ดังนั้นมาดูกับเลยว่าโต๊ะแบบนี้จะช่วยได้จริงหรือไม่
โต๊ะปรับระดับได้มันดีอย่างไร ?
1. การยืนทำงานมีส่วนทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นระยะเวลานาน ส่งผลต่อระบบร่างกายได้อย่างไม่ว่าจะเป็นอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง รวมถึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคในกลุ่มโรค non-communicable diseases: NCDs ตามมาได้
2. การใช้งานโต๊ะยืนทำงาน เป็นอุปกรณ์ที่ดีในที่ช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนเลือดและหัวใจได้ดีขึ้น เพราะร่างกายได้มีการขยับปรับเปลี่ยนท่าทางเวลานั่งที่อยู่กับที่นาน ๆ ลดลง มีงานวิจัยพบว่าการหยุดจากพฤติกรรมเนือยนิ่งนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตัวอย่างเช่น การหยุดพักจากการนั่งเป็นเวลานาน เช่น ทุก ๆ 30 นาที อาจส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ในขณะที่การนั่งนิ่งที่ 60 นาที หรือมากกว่านั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น
3. มีวิจัยที่ทำการศึกษาประสิทธิภาพของการทำงานโดยใช้โต๊ะยืนในการทำงานของพนักงานในออฟฟิศ พบว่าการใช้โต๊ะยืนทำงานสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับโต๊ะนั่งทำงานแบบปกติ รวมถึงยังช่วยทำให้จิตใจ ดีขึ้นระหว่างการทำงานอีกด้วย
4. มีส่วนช่วยในการควบคุมหนักได้มากขึ้น อาจจะดูเป็นเรื่องเกินจริง แต่ผลการวิจัยจาก Mayo Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่า การยืนทำงานสามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการนั่งทำงาน โดยผลการทดลองได้ระบุว่าการยืนทำงาน สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่ากลุ่มที่นั่งทำงานได้มากกว่าถึง 0.15 แคลอรี่ต่อนาที ด้วยเหตุนี้เองการยืนทำงานจึงสามารถเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้มากขึ้น และมีโอกาสช่วยในการลดน้ำหนักได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้การยืนทำงาน ไม่ใช่การออกกำลังกายแต่เป็นการขยับร่างกายเพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ และลดการกดทับของกระดูกสันหลังจากการนั่งนานได้ จึงสามารถช่วยลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลังส่วนบนและล่าง เอว นอกจากนี้ยังเป็นการลดพฤติกรรมเนือยนิ่งของแต่ละช่วงในระหว่างวัน อย่างไรก็ตามการยืนนานเกินไปก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับการทำงานอีกเช่นกัน เพราะการยืนนาน ๆ ก็อาจเสี่ยงต่อข้อเข่า ข้อเท้าให้เจ็บได้เช่นกัน ดังนั้นการยืนสลับการนั่งทำงานจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น และทำให้ร่างกายของเราห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรม รวมถึงช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในระหว่างวันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการลดหรือควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
แหล่งที่มา สสส
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY