รู้หรือไม่?! ออรัลเซ็กซ์ (oral sex) เป็นสาเหตุอันดับต้นๆของ โรคมะเร็งลำคอ ป้องกันได้อย่างไรบ้าง ไปดูกัน!
กำลังเป็นที่พูดถึงกับประเด็นที่ว่า การทำ ออรัลเซ็กซ์ (oral sex) เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งที่ลำคอได้ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาให้ความรู้มากมาย วันนี้ ไบรท์ทูเดย์ (Bright Today) ได้นำบทความของ ศาสตราจารย์ ไฮแชม เมฮันนา กล่าวในบทความที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์วิชาการ The Conversation โดยกล่าวถึงงานวิจัยศึกษากลุ่มผู้ใหญ่ 1,000 คน ที่ต้องผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก พบว่า 80% ของคนกลุ่มนี้เคยมีออรัลเซ็กซ์มาแล้วในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต แม้สาเหตุที่ทำให้ต้องตัดต่อมทอนซิลนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็งก็ตาม

สาเหตุ
สาเหตุของโรคนี้คือการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกด้วยนั่นเอง แต่ในปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยมะเร็งคอหอยส่วนบนหลังช่องปากในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร มีสูงกว่าผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกเป็นอย่างมาก
ศาสตราจารย์ ไฮแชม เมฮันนา จากสถาบันมะเร็งและวิทยาศาสตร์พันธุกรรมแห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ผู้ทำการวิจัยในประเด็นนี้บอกว่า เชื้อไวรัส HPV นั้นติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ ทำให้ปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคมะเร็งคอหอยส่วนบน ขึ้นอยู่กับจำนวนคู่นอนที่ชายหญิงแต่ละคนมีกิจกรรมทางเพศแบบออรัลเซ็กซ์ด้วย
หากตลอดช่วงชีวิตหนึ่งของเขาหรือเธอ มีคู่ทำโอษฐกามมากกว่า 6 คนขึ้นไป จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งคอหอยส่วนบนสูงกว่าผู้ที่ไม่มีกิจกรรมทางเพศแบบนี้ถึง 8.5 เท่า
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นได้ว่า ออรัลเซ็กซ์ คือสาเหตุหลักของการติดเชื้อในคอหอยส่วนบนหลังช่องปาก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมทอนซิลตั้งอยู่นั่นเอง แต่จะมีคนบางส่วนที่ภูมิคุ้มกันไม่สามารถขจัดเชื้อไวรัส HPV ออกจากลำคอไปได้ทั้งหมด ทำให้ไวรัสเพิ่มจำนวนสะสมในเซลล์บริเวณดังกล่าว และส่งผลเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเซลล์จนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
วิธีป้องกัน
สำหรับวิธีการป้องกันมะเร็งคอหอยส่วนบนนั้น นอกจากจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศ โดยทำออรัลเซ็กซ์อย่างปลอดภัยด้วยการสวมถุงยางอนามัยแล้ว หลายประเทศยังมีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในทั้งชายและหญิง ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอีกด้วย
เนื่องจากมีผลวิจัยชี้ว่าวัคซีนดังกล่าวสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ในช่องปากและลำคอได้เช่นเดียวกับการติดเชื้อที่ปากมดลูก
ศ. เมฮันนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ให้เด็กสาวและสตรีสูงกว่า 85% จะทำให้บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่พลอยได้รับประโยชน์จากภูมิคุ้มกันหมู่ไปด้วย โดยไม่ต้องรับวัคซีนดังกล่าวด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศทั่วโลกไม่มีการฉีดวัคซีนในอัตราที่สูงขนาดนั้น ทำให้ความเสี่ยงที่บุรุษเพศจะติดเชื้อ HPV ในช่องปากและลำคอยังคงมีอยู่มาก หากไม่ได้รับวัคซีนป้องกันเสียแต่เนิ่น ๆ

มีเซ็กส์ยังไง? ไม่เสี่ยงติดเชื้อ HPV
- ไม่มีเพศสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืน หรือมีคู่นอนหลายคน
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV มากถึง 90%
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย (ต่ำกว่า 18 ปี)
- ไม่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพราะสามารถเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV และก่อให้เกิดมะเร็งทวารหนักได้
- ไม่มีเพศสัมพันธ์ด้วยการทำออรัลเซ็กส์ เพราะเชื้อ HPV สามารถก่อให้เกิดมะเร็งช่องปาก หรือมะเร็งลำคอได้
- ระวังการติดเชื้อจากการใช้นิ้วมือ เนื่องจากเชื้อ HPV สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรงได้
ฉีดวัคซีนช่วยป้องกันการติดเชื้อ
เพราะการติดเชื้อ HPV ไม่มีอาการแสดงใดๆ ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคู่นอนของคุณมีเชื้อ HPV อยู่หรือไม่? การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ตั้งแต่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจึงเป็นแนวทางการป้องกันความเสี่ยง สามารถเริ่มฉีดให้กับเด็กผู้หญิงได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีเป็นต้นไป ในคนวัยเจริญพันธุ์ที่ยังมีเพศสัมพันธ์อยู่..ก็ควรฉีดวัคซีนป้องกันไว้ด้วย แม้ว่าการติดเชื้อ HPV ผ่านการมีเพศสัมพันธ์จะพบได้บ่อย แต่ก็ไม่ใช่ 100% ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ การตรวจหาเชื้อ HPV ในระดับดีเอ็นเอ หรือ HPV Testing จึงเป็นวิธีการค้นหาเชื้อ HPV ที่ให้ผลแม่นยำ ช่วยให้รักษาการติดเชื้อได้ทัน..ก่อนกลายเป็นมะเร็ง
ที่มา : BBC และ โรงพยาบาลเปาโล
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY