คนขับรถแท็กซี่ป่วยด้วยโรคเบาหวานจนทีมแพทย์ต้องตัดขากลายเป็นผู้พิการ แต่ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งไม่ยอมเป็นภาระสังคม ตัดสินใจกลับมาฝึกขับรถแท็กซี่ขาเดียวหารายได้ดูแลครอบครัว รายละเอีดยเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากรายงานของ คุณภัชศุ ฐิตะรภัส ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์
ภาพของรถแท็กซี่สีฟ้าคันนี้ดูผิวเผินไม่มีความแตกต่าง หรือผิดปกติจากรถแท็กซี่คันอื่น ๆ ทั่วไป ที่ออกให้บริการกับประชาชนในทุกพื้นที่ แต่เมื่อมองลึกลงถึงรายละเอียด กลับพบว่าคนขับรถแท็กซี่คันนี้ เป็นผู้พิการที่มีขาเพียงข้างเดียว!
นายณัฐวุฒิ งาเนียม อายุ 47 ปี คนขับรถแท็กซี่ผู้พิการมีขาข้างเดียว เปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าวไบรท์นิวส์ ว่า ก่อนหน้านี้ขับรถแท็กซี่มาประมาณ 2 ปีไม่เคยใส่ใจดูแลเรื่องสุขภาพ และก่อนหน้านี้ เมือ4เดือนที่ผ่านมา ตนเองป่วยเป็นโรคเบาหวาน ทีมแพทย์ รพ.พระนั่งเกล้า มีความจำเป็นต้องตัดขาข้างซ้ายทิ้ง
หลังจากมาการป่วยบรรเทาลง ยังต้องมีภาระเลี้ยงดูพ่อชราป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ นอกจากนี้ ยังต้องดูแลลูกชายวัยเรียนเพียงลำพังเนื่องจากแยกทางกับครอบครัว จึงมีความจำเป็นต้องฝึกขับรถแท็กซี่ขาเดียวหาเงินประทังชีวิต
ทุกวันนี้ นายณัฐวุฒิ ต้องขับรถแท็กซี่ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่ม โดย นางจิรภัทร อินจำวงศ์ อายุ 61 ปี ผู้โดยสารท่านหนึ่ง บอกว่า ถึงแม้ นายณัฐวุฒิ จะเป็นผู้พิการแต่ก็มีความสามารถขับรถได้ดี เมื่อทดลองใช้บริการนอกจากจะขับรถนุ่มนวล มารยาทดีจนรู้สึกปลอดภัยแล้ว การใช้บริการรถแท็กซี่ของ นายณัฐวุฒิ ยังถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จึงตัดสินใจใช้บริการเป็นประจำ
การดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองของคนขับรถแท็กซี่ผู้พิการอย่าง นายณัฐวุฒิ ถือว่าเป็นแบบอย่าง บุคคลสู้ชีวิตที่ไม่ย่อท้อต่อชะตากรรม อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้แท็กซี่ใจเด็ดรายนี้มีชีวิตที่ดีขึ้น