ฆ่ายัดกล่อง / ฆ่าโหดสาวกทม. ยัดศพในกล่องพลาสติก ซุกบ้านเช่าในอ.หัวหิน เพื่ออำพราง เจ้าหน้าที่คาดเสียชีวิตมา 3 วัน พร้อมเร่งไล่ล่าแฟนหนุ่มผู้ต้องสงสัย
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 13 ตุลาคม ร.ต.ท.เนติรัฐ ไชยสถิตย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งมีคนถูกฆ่าตายที่บ้านเลขที่ 318/88 บ้านภูตะวัน ซอย 5 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.หัวหิน มูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน
ที่เกิดเหตุเป็นทาวเฮ้าส์ชั้นเดียวเรียงติดกันมีชาวบ้านจำนวนมากมุงดูเหตุการณ์พร้อมจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ จากการตรวจสอบภายในห้องน้ำพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดใส่กล่องพลาสติกขนาดใหญ่มีผ้านวมและหมอนอัดมีฝาปิดทับอำพรางศพ
เจ้าหน้าที่จึงยกศพออกมาโดยมีญาติของผู้ตายตามดูอย่างใกล้ชิด โดยยืนยันว่าเป็นศพ น.ส.สุชาภัสร์ หิรัญพันธะโชติ หรือไก่ อายุ 39 ปี อาชีพขายสินค้าออนไลน์ อยู่ที่ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 67 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.สภาพศพสวมยกทรงสีดำ ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น ตรวจที่คอถูกแทงด้วยมีดรวม 7 แผล ที่กกหูขวาถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์
เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณอ่างล้างหน้าพบมีดทำครัวเปื้อนเลือดตกอยู่ใน 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้มูลนิธินำศพส่งยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจให้แพทย์ตรวจชันสูตรอีกครั้ง ขณะเดียวกันบริเวณหน้าบ้านพักพบรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 กง 4431 กทม. ของผู้ตายจอดล๊อกประตูมีเสื้อผ้าอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุและรอบรถเก๋งเพื่อเทียบหาประวัติคนร้าย
ด้านพ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผบก.ภ.ประจวบฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ญาติผู้ตายได้เข้าแจ้งความว่า น.ส.สุชาภัสร์ สูญหายที่ สน.ประเวศ พร้อมประสาน สภ.หัวหิน ให้ช่วยตามหาเนื่องจาก หลังสุดทราบว่าผู้ตายจะขับรถเก๋งมาแฟนหนุ่มชื่อเอ๋ ที่ อ.หัวหิน ก่อนสั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาจนกระทั่งพบรถเก๋งผู้ตายจอดอยู่หน้าทาวเฮ้าส์ของนายเอ๋ที่เช่าอาศัยอยู่ พร้อมมีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายศพโชยออกมา เมื่อตะโกนเรียกก็ไม่มีใครตอบคาดว่าเกิดเหตุร้าย จึงตัดกุญแจเข้าไปตรวจสอบและพบศพ ส่วนนายเอ๋ขณะนี้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวก่อนผู้ตายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและนำศพยัดใส่กล่องไว้เพื่ออำพราง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสสำคัญพร้อมติดตามจับตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วนแล้ว