เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 มกราคม 2562 ที่กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงผลจับกุม ขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติ 2 ราย คือนายบรรจบ ศรีวรสาร อายุ 46 ปี ร่วมกับ นายวรวุฒิ เสนพันธุ์ อายุ 35 ปี ชาวบ้าน อ.บ้านแพง จ.นครพนม ยุดของกลาง รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน สฐ 5246 กทม. ภายในกระบะรถ บรรทุกยาบ้า มาเต็มกระบะรถ บรรจุในกระสอบสวมด้วยถุงดำตรวจนับได้ 3.75 ล้านเม็ด คิดเป็นเงินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
การจับกุมตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ นรข. สืบทราบมาว่าจะมีการลักลอบ ขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามาในพื้นที่ ชายแดน จ.นครพนม จนกระทั่งมีการระดมกำลังลงพื้นที่ จับกุมได้ หลังขบวนการค้ายาบ้า มีการลักลอบขนส่งเข้ามาในพื้นที่ อ.ธาตพนม จ.นครพนม ก่อนมีการสกัดตรวจยึดจับกุมได้ บริเวณถนน ในเขต อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงจับกุมตรวจยึดเป็นของกลาง
นอกจากนี้ในการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหา คือ นายวรวุฒิ เสนพันธ์ อายุ 35 ปี เคยถูกจับกุมคดีเสพยาบ้า เมื่อเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา เชื่อว่าเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ จนมาถูกจับกุมในครั้งนี้
พลเรือตรี ระพีพงษ์ โสวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงนครพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ได้รับจ้างจากนายทุนเป็นเงินค่าจ้าง ประมาณ 50,000 บาท โดยมีหน้าที่เพียงขับรถ เนื่องจากมีเพื่อนร่วมขบวนการติดต่อ จึงตัดสินใจรับจ้างขับ เพื่อต้องการเงินมาใช้จ่ายเพราะไม่มีงานทำ ซึ่งไม่รู้ที่มาและไม่มีเป้าหมาย เพียงขับรถยนต์ ตามที่ผู้ว่าจ้างแจ้งนัดหมาย โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี
ส่วนที่มาของยาบ้า คาดว่ามาจากทางภาคเหนือ เนื่องจากปัจจุบัน มีการเลี่ยงการจับกุม หันนำเข้าทางอีสานมากขึ้น จึงต้องเพิ่มมาตรการเข้มงวดมากขึ้น พร้อมประสานขอความร่วมมือขาวบ้านแจ้งเบาะแส ถือเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องการข่าว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะสกัดกั้นปราบรามจับกุม
ขณะเดียวกันในส่วนของพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการจับกุมตรวจยึดยาบ้ามากกว่า 10 ล้านเม็ด กัญชามากกว่า 5 ล้านเม็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจะได้เพิ่มมาตรการเข้ม ป้องกันฉวยโอกาสลักลอบขน ในช่วงกำลังจะมีการเลือกตั้ง เพราะเจ้าหน้าที่มีภารกิจมากขึ้น