เขื่อนลำปาว ส่อวิกฤติ ปริมาณน้ำลดลงต่อเนื่อง เหลือน้ำใช้ 673 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 34 เท่านั้น สามารถหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทาน 314,300 ไร่ครอบคลุม 30,000 ครัวเรือน
นายพงษ์ศักดิ์ ณ ศร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า พบว่าภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้น้ำในเขื่อนลดลงต่อเนื่อง โดยขณะนี้น้ำที่ใช้การได้มีเพียง 673 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 34 ซึ่งจะสามารถหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทาน 314,300 ไร่ครอบคลุม 30,000 ครัวเรือน และจะส่งน้ำเข้าอ่างห้วยสีทนเพื่อผลิตน้ำประปาให้ชาวเมืองกาฬสินธุ์
ทั้งนี้ แผนการจัดการน้ำเขื่อนลำปาวจะส่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรและลำน้ำธรรมชาติประมาณวันละ 5.78 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งจะส่งลงลำชีวันละ 2.5 ล้าน ลบ.ม. จะทำให้พื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดยโสธร ได้รับประโยชน์ ส่วนอีกกว่า 3 ล้าน ลบ.ม.จะอยู่ในเขตชลประทาน 5 อำเภอของกาฬสินธุ์ คือ อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย อ.เมืองกาฬสินธุ์ และอำเภอร่องคำ ซึ่งจะแบ่งเป็นการใช้ประโยชน์ 3 ส่วนคือ 1.น้ำให้ประชาชนอุปโภคบริโภค 2.เป็นน้ำทางการเกษตร 3.เป็นน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม และอีก 1 ส่วนคือน้ำที่จะรักษาระบบนิเวศน์ในแหล่งน้ำธรรมชาติ และผลจากปรากฏการณ์ฝนทิ้งช่วงที่คาดว่าจะเกิดปรากฏการเอลนิโญ จะทำให้น้ำมีพอใช้ถึงเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสำรองน้ำไว้ใช้และช่วยกันประหยัดน้ำด้วย