“เรืองไกร” งัดคำพิพากษาศาล มัด “บิ๊กตู่” เป็นเจ้าพนักงานรัฐ ร้องกกต. จี้ปลด “ประยุทธ์” พ้นบัญชีนายกฯ พปชร.
12 มี.ค.62-นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยื่นคำร้องขอให้ กกต.ปลดชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า คดีที่คสช.ฟ้องนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2558 มีคำพิพากษาของศาลแขวงดุสิต หน้า 5 ระบุว่า “ดังนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงเป็นเจ้าพนักงานตามอำนาจที่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญให้ไว้” นอกจากนี้นายสมบัติในฐานะจำเลย ยังได้ฟ้องว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐนั้น ก็มีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2559 ระบุว่า “ที่จำเลยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐนั้น ข้อเท็จจริงปรากฎว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคสช. มีอำนาจในการดำเนินการต่างๆ ตามกฎหมาย จึงเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจออกคำสั่งให้จำเลยมารายงานตัว”
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (16) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2558 ให้ความหมายเจ้าพนักงานไว้ดังนี้ “(16) เจ้าหนักงานหมายความว่า บุคคลซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าเป็นเจ้าพนักงานหรือได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ว่าจะเป็นประจำหรือครั้งคราว และไม่ว่าจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่” ดังนั้น ขอให้กกต.ได้ตรวจสอบข้อมูลนี้ เพราะมีการตีความพล.อ.ประยุทธ์ที่ชัดเจนแล้ว โดยขอให้กกต.เร่งวินิจฉัยตามมาตรา 89 ในรัฐธรรมนูญได้เลย เพราะเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ขาดคุญสมบัติ ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯในนามของพรรคพลังประชารัฐ จึงหวังว่ากกต.จะรับวินิจฉัยต่อไป
