“งานหนักไม่เคยฆ่าใคร” คงเป็นคำพูดที่ไม่ถูกสักเท่าไหร่ เพราะความจริงแล้ว มีคนถูก “งานฆ่าตาย” หรือตายเพราะทำงานหนักเกิดขึ้นจริง และสถานการณ์ก็ดูจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

การทำงานหนักจนเสียชีวิตไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาของหลายประเทศ โดยประเทศญี่ปุ่นเรียกอาการนี้ว่า Karoshi Syndrome หรือ “โรคคาโรชิ” การทำงานหนักเกินไปจนนำไปสู่ความตาย (death from over work) โรคคาโรชิเริ่มขึ้นครั้งแรกในช่วง ค.ศ. 1970 ซึ่งเป็นยุคฟื้นฟูหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่คนญี่ปุ่นมีค่านิยมการทำงานหนักเพื่อส่วนร่วม เพื่อสร้างชาติ และเพื่อศักดิ์ศรีองค์กร

สาเหตุการตายจากโรคคาโรชินั้นเกิดได้ 2 แบบ คือ ป่วยตาย เช่น ทำงานหนักจนหัวใจวาย แบบที่ 2 คือ ฆ่าตัวตาย อันมีสาเหตุมาจากความเครียด ความกดดัน  ที่เกิดจากการพยายามตั้งคุณค่าในการทำงานให้ตัวเองมากเกินไป ซึ่งอาจเกินขีดจำกัดของร่างกายและจิตใจ

ไม่ใช่แค่ประเทศญี่ปุ่นที่ประสบปัญหานี้ ในประเทศจีนก็พบปัญหานี้เช่นกัน โดยเรียกอาการนี้ว่า “กั้วเหลาสื่อ” ซึ่งสถิติใน พ.ศ.2557 พบตัวเลขคนทำงานจนตายถึงปีละราว 600,000 คน หรือเฉลี่ยมีคนตายจากการทำงานหนักเกินเหตุวันละ 1,600 คน ส่วนอาชีพที่ทำงานหนักจนถึงขั้นเสียชีวิตในจีน ได้แก่ ผู้ที่มีอาชีพสื่อมวลชน นักโฆษณา วงการแพทย์ และไอที

ส่วนประเทศไทยนั้น ไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่ข่าวจากโลกออนไลน์และสื่อต่าง ๆ ก็บ่งบอกได้ว่า สถานการณ์ไม่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ นัก

เช็กสัญญานทำงานหนักมากเกินไป?

เพื่อความไม่ประมาท มาลองสำรวจพฤติกรรมว่า คุณทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หากมีพฤติกรรมต่อไปนี้ ก็ควรหาวางมือจากงานแล้วหาเวลาหยุดพักผ่อนให้กับตัวเองและใช้เวลากับคนรอบข้างเสียบ้าง

  • ออกจากออฟฟิศเป็นคนสุดท้ายทุกคืน
  • ดื่มกาแฟอย่างน้อย 2 แก้ว เพื่อกระตุ้นตัวเองตอนเช้า 1 แก้วและช่วงบ่ายอีก 1 แก้ว
  • อย่าถามว่าลาพักร้อนครั้งสุดท้ายไปเมื่อไร เพราะคุณจำไม่ได้
  • ขาดปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อน
  • ถึงแม้จะทุ่มเทเวลาให้กับการทำงาน แต่กลับขาดพลังและความกระตือรือร้นกับงานที่ทำ
  • การออกกำลังกายคือการเดินไปยังเครื่องถ่ายเอกสาร หรือคุยงานกับเพื่อนร่วมงาน แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ
  • นอนหลับยังฝันถึงงานที่ทำ
  • อยู่กับอีเมล และอินเทอร์เน็ต เพื่อเช็กข้อมูลเกี่ยวกับงานตลอดเวลา
  • ระดับความเครียดและความวิตกกังวลสูง
  • คนรอบตัวพร่ำบอกให้คุณหยุดพัก

หากมีพฤติกรรมดังที่ได้กล่าวมา ถึงเวลาที่คุณจะหยุดพัก เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้สดใสแข็งแรง สร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ปรับสมดุลที่ดีระหว่างชีวิตและการทำงาน ที่สำคัญป้องกันการหมดไฟในการทำงานด้วย

ข้อมูล : Jobsdb

www.prachachat.net


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อาหาร “ฆ่าตัวตาย” ที่มนุษย์ออฟฟิศควรเลิกหยิบใส่ปาก

อาหารว่างห้องประชุม เพลินปากลำบากพุง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

วงในเม้าท์แซ่บ !! “นนกุล-แอฟ” รักไม่หวานเหมือนเดิม?

“นุ่น” น้องสาว “นนกุล” หลุดปาก! เล่าโมเมนต์ “นนกุล-แอฟ หลังดราม่า “สายตาไม่เหมือนเดิม” งานนี้ใครจับผิดสายตา “นนกุล” ว่าไม่คลั่งรักอา […]

ตู่ ปิยวดี – มาวิน เผยโฉม “น้องเหมียวหมี่” ลูกสาวคนแรกสุดน่ารัก

ตู่ ปิยวดี – มาวิน เผยโฉม ‘น้องเหมียวหมี่’ ลูกสาวคนแรกสุดน่ารัก สดใสตั้งแต่คลอด!คุณแม่อารมณ์ดีแซว “หัวหน้าห้องรายงานตัวค่ะ” อบอวลไปด้วยความสุขทั่วโซเช […]

“เมย์ วาสนา” เปิดใจครั้งแรก! เหตุส่งพวงหรีดร่วมงานศพ “พ่อดิว อริสรา” – ค้างหนี้ 62 ล้าน

“เมย์ วาสนา” เปิดใจครั้งแรก! เหตุผลส่งพวงหรีดร่วมงานศพ “พ่อดิว อริสรา” ทั้งที่เคยมีดราม่า 62 ล้าน – ลั่น “ไม่ซ้ำเติม คนสูญเสีย” กลายเป็นอี […]

มึงรู้ไหมกูเป็นใคร เลือกตั้งสงขลาฉาว สจ.ดังสั่งลูกน้องตื้บตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

เถื่อนอีกแล้ว สจ.ดังสั่งลูกน้องตื้บตำรวจคาหน่วยเลือกตั้งสงขลา ประกาศลั่นมึงรู้ไหมกูเป็นใคร ไม่แคร์สายตาชาวบ้านนับสิบ

จูน เพ็ญชุลี เคลื่อนไหวแซ่บ! หลัง “จ๊ะโอ๋” หอบเงิน 3 ล้านขอโทษ ปิดตำนานรักสามเส้า “หนุ่ม กะลา”

จบกันด้วยดีแบบไม่มีค้างคา สำหรับ “แม่จูน” ที่เคลื่อนไหวแซ่บ! หลัง “จ๊ะโอ๋” หอบเงิน 3 ล้านขอโทษ ปิดตำนานรักสามเส้า “หนุ่ม กะลา” สะเทือนวงการ ปิดฉากแบบเ […]

ให้มันจบ!! “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” เคลียร์คดี “จูน” อดีตภรรยา “หนุ่ม กะลา” ยอมจ่าย 3 ล้าน ขออโหสิกรรม

“จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” เคลียร์จบ “จูน” อดีตภรรยา “หนุ่ม กะลา” ยอมจ่าย 3 ล้าน ขออโหสิกรรมให้กัน ลั่นขอเดินหน้าชีวิตใหม่ ถือเป็นการปิดฉากดราม่ารักสามเส้าอย่า […]
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า