ใครกำลังกลุ้มใจเพราะมีปัญหา ‘เท้าเหม็น’ ขอให้มาทางนี้ค่ะ ไบรท์ออนไลน์มีเคล็ดลับง่ายๆ ไร้ซึ่งความซับซ้อน มาให้คุณนำไปใช้สลายกลิ่นเท้า ไม่ต้องวุ่นวายสรรหาสเปรย์ระงับกลิ่นราคาแพงนะคะ แค่เดินเข้าครัวแล้วหยิบ ‘น้ำส้มสายชู’ มาก็พอค่ะ!
‘กลิ่นไม่พึงประสงค์’ ที่เกิดขึ้นกับเท้าคุณนั้นเกิดจากหลายสาเหตุนะคะ บางคนแม้ไม่ได้ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องสวมรองเท้าปิดทึบเลย แต่กลับมีกลิ่นเท้าที่เหม็นมากกว่าคนออกกำลังกายเสียอีก นั่นเป็นเพราะระบบการขับเหงื่อบริเวณเท้าไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้แบคทีเรียและเชื้อราที่เท้าและรองเท้าเจริญเติบโตได้ดีมากขึ้นไปอีก เท้าก็ยิ่งส่งกลิ่นร้ายกาจหนักขึ้นไปอีก ดังนั้น จึงต้องมาพึ่งตัวช่วยสามัญประจำบ้านอย่าง ‘น้ำส้มสายชู’ ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งวิธีการแก้ปัญหากลิ่นเหม็นของเท้านี้ไม่ยากเลยค่ะ แค่แช่เท้าในน้ำส้มสายชูเท่านั้นเอง
อ๊ะๆ ไม่ได้ให้เทน้ำส้มสายชูลงอ่างแล้วพรวดพราดจุ่มเท้าลงไปเลยนะคะ อย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด สุ่มสี่สุ่มห้าจุ่มเท้าลงไปกลิ่นเหม็นหายเกลี้ยงก็จริง แต่เนื้อหนังบริเวณเท้าอาจหายไปด้วยได้ง่ายๆ เลยค่ะ ก็กรดอะซิติกในน้ำส้มสายชูน่ะอิทธิฤทธิ์ร้ายอยู่นาจา ดังนั้น ต้องทำให้เจือจางก่อนด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ
1. เจือจางน้ำส้มสายชูด้วยน้ำอุ่น ในสัดส่วน 1:2 โดยเทน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยลงในอ่างที่จะใช้แช่เท้า ตามด้วยน้ำอุ่น 2 ถ้วย … เติมส่วนผสมแบบ 1:2 แบบนี้วนไปจนกว่าน้ำปริมาณสารละลายทั้งสองชนิดจะสูงพอท่วมเท้าของคุณ
2. ล้างทำความสะอาดเท้าด้วยสบู่อ่อนๆ ก่อน
3. แช่เท้าในอ่างที่เจือจางน้ำส้มสายชูไว้แล้วประมาณ 10-20 นาที
4. ล้างเท้าด้วยสบู่อ่อนๆ อีกครั้ง แล้วซับเท้าให้แห้ง
5. ทำซ้ำได้ทุกวันจนกว่าปัญหากลิ่นเท้าจะหายไปค่ะ
แม้การแช่เท้าด้วยน้ำส้มสายชูแบบนี้จะมีประโยชน์ แต่ก็อยากให้คุณๆ พิจารณาชนิดของน้ำส้มสายชูที่จะนำมาให้กันให้ดีนะคะ เพราะแต่ละชนิดจะมีกรดอะซิติกแตกต่างกัน เช่น น้ำส้มสายชูสีขาวมีกรดอะซิติกประมาณ 4-7 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่น้ำส้มสายชูแบบไซเดอร์ และแบบที่หมักจากไวน์จะมีกรดอะซิติกประมาณ 5-6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็มีประสิทธิภาพในการช่วยเรื่องกลิ่นเท้าไม่ต่างกันหรอกค่ะ แต่ไบรท์ออนไลน์ก็อยากให้หลีกเลี่ยงน้ำส้มสายชูที่มีส่วนผสมของสมุนไพรหรือผลไม้เอาไว้ก่อน เนื่องจากอาจมีส่วนประกอบบางอย่างที่เสี่ยงจะทำให้คุณมีอาการแพ้ได้เช่นกัน
มีเคล็ดลับดีๆ มาให้แล้วอย่าลืมนำไปทดลองใช้กันนะคะ เพราะมันง่ายนี้ดดดดเดียวจริงๆ เพียงแต่ถ้าไซส์เท้าของคุณบิ๊กเบิ้มมากๆ ก็อาจจะเปลืองน้ำส้มสายชูหน่อยเท่านั้นเอง ^^
ที่มา: www.medicalnewstoday.com