โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาจริงๆ ค่ะ ล่าสุดมีข่าวออกมาแล้วว่า ‘ขั้วโลกเหนือแม่เหล็ก’ หรือ Magnetic North Pole กำลังมีการ ‘ดริฟท์’ เคลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วปีละ 34 ไมล์! จนต้องมีการกำหนดตำแหน่งของขั้วโลกเหนือแม่เหล็กใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งการเคลื่อนตัวดังกล่าวทำให้เกิดคำถามและความกังวลเกี่ยวกับการทำงานของระบบการนำทางต่างๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแถบที่ละติจูดสูงๆ
Photo via: twitter NOAA
สนามแม่เหล็กของโลกนั้นเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนตัวทางธรณีวิทยาในอดีตค่ะ โดยเป็นผลจากการหมุนของเหล็กที่หลอมเหลวและนิกเกิล 1,800 ไมล์ใต้พื้นผิวโลก ทำให้มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่เกิดเป็นสนามแม่เหล็กหุ้มห่อโลก เมื่อการไหลของโลหะที่หลอมเหลวในแกนด้านนอกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มันจะเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กด้วย
และสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาก็คือ ตำแหน่งของ Magnetic North Pole หรือขั้วโลกเหนือแม่เหล็ก มีการเคลื่อนไปทางเหนือมากขึ้น ซึ่งการย้ายนี้ถูกเปลี่ยนพิกัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้ขั้วเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ความเร็วของการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นนี้กระตุ้นให้ต้องมีการอัพเดตตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยตำแหน่งอย่างเป็นทางการของเสาแม่เหล็กนั้นถูกระบุโดย World Magnetic Model ซึ่งทำหน้าที่พื้นฐานเกี่ยวกับการนำทาง การสื่อสาร GPS และอื่น ๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา World Magnetic Model ได้ทำการปรับปรุงแบบจำลองเพื่ออัพเดทตำแหน่งของ Magnetic North Pole อย่างเป็นทางการ ซึ่งโดยทั่วไปแบบจำลองจะได้รับการปรับปรุงทุก 5 ปี และได้รับการปรับปรุงครั้งล่าสุดในปี 2015 อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของขั้วโลกเหนือแม่เหล็กเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องอัพเดตโมเดลก่อน เนื่องจากมีการเคลื่อนที่ไปทางรัสเซียเป็นระยะ 34 ไมล์ต่อปี ในขณะที่เมื่อครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาการเคลื่อนที่อยู่ที่ระยะประมาณ 7 ไมล์ต่อปีเท่านั้น
เมื่อเกิดการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของขั้วโลกเหนือแม่เหล็กจากแถบอาร์กติกของแคนาดาไปยังรัสเซีย การอัพเดตโมเดลจึงมีประโยชน์ในการช่วยให้มั่นใจเรื่องความแม่นยำของการทำงานในหน่วยงานทั่วโลก โดยเฉพาะ NASA, Federal Aviation Administration (FAA) และ US Forest Service ซึ่งใช้แม่เหล็กในการปฏิบัติงานประจำวันของพวกเขาตั้งแต่การทำแผนที่ไปจนถึงการควบคุมการจราจรทางอากาศ ส่วนสมาร์ทโฟนจะใช้สนามแม่เหล็กทิศเหนือสำหรับตำแหน่ง GPS และแอปพลิเคชันเข็มทิศ
แน่นอนค่ะว่าการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของขั้วโลกเหนือแม่เหล็กนี้น่าจะก่อให้เกิดคำถามและความกังวลต่อการพลิกขั้วแม่เหล็กที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่าการพลิกดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยมีนักธรณีวิทยาตีความแร่ธาตุแม่เหล็กในหินทั่วโลกเพื่ออธิบายถึงประวัติศาสตร์การพลิกกลับของสนามแม่เหล็กบนโลก ซึ่งขั้วแม่เหล็กของโลกได้มีการพลิกกลับมาหลายครั้งในประวัติศาสตร์ โดยการพลิกกลับล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 780,000 ปีก่อน และเกิดขึ้น 183 ครั้งใน 83 ล้านปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ปรากฏว่าการพลิกขั้วนี้จะก่อให้เกิดหายนะที่เป็น ‘จุดจบของโลก’ เพราะจากการตรวจสอบบันทึกซากดึกดำบรรพ์ไม่มีหลักฐานว่าการพลิกกลับของสนามแม่เหล็กทำให้เกิดการสูญพันธุ์เพิ่มขึ้น รวมถึงเกิดการประทุหรือระเบิดของภูเขาไฟ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งกลับเกี่ยวข้องกับเรื่องของเทคโนโลยีมากมายที่มีการอาศัยขั้วแม่เหล็กมากกว่า เนื่องจากการพลิกกลับจะสามารถเปลี่ยนแปลงระบบนำทางและการสื่อสารทั่วโลกนั่นเอง
ยังโชคดีนะคะที่การพลิกกลับขั้วของแม่เหล็กมักจะใช้เวลาเป็นพัน ๆ ปี นั่นอาจจะช่วยทำให้มนุษย์เรามีเวลาในการพัฒนาแผนบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ (ถ้า ณ ตอนนั้น มีการตระหนักถึงความสำคัญของมันอยู่อ่ะนะ)
ที่มา: www.forbes.com
อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ คลิก
ติดตามข่าวอื่นที่คุณสนใจ คลิก