อธิบดีกรมการแพทย์ เตือนประชาชนที่เล่นน้ำสงกรานต์กลางแสงแดดจัด ระวังอันตรายที่อาจก่อให้เกิดผิวหนังอักเสบเรื้อรังและโรคมะเร็งผิวหนัง พร้อมเผยวิธีเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อนทั่วทุกภูมิภาค ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว แสงแดดจ้า และมลภาวะต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังได้ง่าย โดยเฉพาะแสงอุลตราไวโอเลต หรือแสงยูวี (UV) ที่มาจากดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง และเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ยิ่งช่วงนี้เป็นเทศกาลของวันสงกรานต์ การเล่นสาดน้ำถือเป็นกิจกรรมที่ทุกคนมาร่วมสนุกสนามกันตามประเพณีไทย อันตรายจากแสงแดดจึงเป็นตัวการที่ทำร้ายผิวของเราให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งอาการที่พบบ่อย คือ ผิวหนังอักเสบจากแสงแดด ซึ่งหากรักษาไม่ถูกวิธีจะส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา
ส่วนการปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดผิวหนังอักเสบในการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ ควรเลือกเล่นน้ำในช่วงเวลาก่อน 10.00 น. หรือหลัง 15.00 น. เป็นต้นไป เพื่อหลีกเลี่ยงปริมาณรังสี UV ที่เข้มข้นในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทำให้ผิวหมองคล้ำและเหี่ยวย่นได้ง่าย และหากมีความจำเป็นต้องถูกแดดในช่วงเวลาดังกล่าว ควรปกปิดผิวกายด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าโปร่งสบายผิว เช่น เสื้อแขนยาว หรือกางเกงขายาวที่ค่อนข้างหลวม ไม่รัดตัวมากเกินไป และทำมาจากผ้าฝ้ายที่ระบายอากาศได้ เพื่อป้องกันการอับชื้นและปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำ กางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้าง ใช้ครีมกันแดดสูตรกันน้ำที่มี SPF 50 PA+++ ทาลงบนผิวหน้าและผิวกายก่อนออกแดด 20 นาที และควรทาซ้ำทุก 2-4 ชั่วโมง และหลังจากเสร็จกิจกรรมเล่นน้ำให้รีบอาบน้ำเมื่อกลับถึงบ้านทันทีและเช็ดผิวให้แห้ง