- เฉินหลง หรือแจ๊กกี้ ชาน มีชื่อจริงว่า เฉิน กั่งเซิง
- นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว เฉินหลงยังติด 1 ใน 10 คนดังผู้ใจบุญของโลกอีกด้วย
- ในปี พ.ศ.2558 นิตยสารฟอบส์ได้ประเมินทรัพย์สินสุทธิของเขาที่ 350 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 10,896 ล้านบาท)
- ในปี พ.ศ.2559 เขาเป็นนักแสดงชายที่มีรายได้เป็นอันดับสองของโลก
หลังจากที่เฉินหลง หรือ แจ๊กกี้ ชาน ได้เปิดตัวภาพยตร์เรื่องใหม่อย่าง Journey To Chaina เขาก็ได้เปิดตัวหนังสือที่ชื่อว่า “Never Grow Up” ตามออกมาด้วย ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นอัตชีวประวัติที่ถ่ายทอดจากเฉินหลงโดยตรง แต่มันคงจะดูไม่น่าสนใจเท่าไรถ้าจะได้อ่านประวัติเขาเพียงอย่างเดียว จริง ๆ ในหนังสือเล่มนี้ หนุ่มเฉินหลงได้เล่าเรื่องราวด้านมืดของเขาเอาไว้อีกด้วย
หนังสือเล่มนี้ถูกวางจำหน่ายหลังจากวันที่ลูกสาวของเฉินหลงที่ชื่อว่า “เอ็ตต้า อู๋เจ่อหลิน (Etta Ng)” ได้แต่งงานกับแฟนสาว “แอนดี้ ออทัมน์ (Andi Autumn)” ในแคนนาดา
ในหนังสือ “Never Grow Up” เฉินหลงได้เล่าเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กที่แสนจะเลวร้ายของเขา เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเล่นการพนัน การหลับนอนกับโสเภณีหลายสิบคน รวมไปถึงการตีลูกชายในวัยหัดเดิน
นอกจากนั้นเขายังได้เขียนเรื่องราวที่เสียใจเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้อีกด้วย เรื่องที่รู้สีกเสียใจมากที่สุดก็คือการที่เขาไม่ยอมเรียนหนังสือ เพราะมัวแต่ติดอยู่กับสิ่งยั่วยวนใจต่าง ๆ
ตอนอายุ 15 ปี เฉินหลง ได้พบกับรักครั้งแรกกับหญิงสาวที่เขาเรียกว่า “ชาง” แต่เขาก็ยอมรับว่าเขาทำตัวเป็นแฟนที่แย่ของเธอมาก ๆ เพราะชางมาอยู่กับเขาเพราะความต้องการของพ่อแม่นั่นเอง
เฉินหลงเดินทางออกจากฮ่องกงบ่อยมากเพราะเขาไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่กับชาง เวลาออกไปเที่ยวด้วยกันเขาก็เลือกที่จะมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นไปทั่ว เพื่อความสนุกของตัวเอง
แต่หลังจากที่เฉินหลงค้นพบว่าตัวเองสามารถหาเงินได้ เขาก็เลิกดื่มแอลกอฮอล์ เลิกเล่นการพนัน เลิกเที่ยวโสเภณี และอบายมุขอื่น ๆ ด้วย เพราะเขายังคิดถึงความมั่นคงของตัวเองอยู่ และต้องการที่จะกลับไปทำให้คนที่ดูถูกเขาเห็นว่าเขาสามารถสร้างหลักสร้างฐานให้ตัวเองได้
เฉินหลงได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Dailymail เอาไว้ว่า “ผมเริ่มมีเงินสดเข้ามาเป็นจำนวนมากทุกวัน หลังจากที่เคยยากจนมานาน ผมชอบเวลาที่มีคนมารายล้อมอยู่รอบ ๆ ตัว เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วผมใช้เงิน 2 ล้านเหรียญดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 84 ล้านบาท) ใน 1 ปี เพื่อจ่ายเงินค่าอาหารเลี้ยงคนอื่น ๆ นอกจากนั้นผมยังใช้เงินเพื่อซื้อของขวัญต่าง ๆ อย่าง นาฬิกา รถยนต์ แจ็กเก็ตหนัง รวมถึงไวน์ที่มีราคาแพงให้กับคนอื่น ๆ อีกด้วย”
เฉินหลงยังได้เล่าย้อนไปถึงช่วงที่มีข่าวอื้อฉาวของเขาออกมาในปี พ.ศ.2542 ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขาแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่กับหลินฟ่งเจียว (Joan Lin) ดารากังฟูชื่อดัง แต่แล้วเขากลับแอบไปมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับ อีเลน เอ็นจี หยี เล (Elaine Wu) ผู้ชนะจากเวทีมิสเอเชียปี 1990 ซึ่งเป็นแม่ของเอ็ตต้า อู๋เจ่อหลิน (Etta Ng)
ช่วงที่เฉินหลงกำลังจีบหลินฟ่งเจียว (Joan Lin) แล้วอยู่ ๆ เธอก็ตั้งครรภ์ เจย์ซี ชาน (Jaycee Chan) ตอนนั้นความคิดในหัวของเฉินหลงมีแต่เรื่องว่า “เธอตั้งครรภ์เพราะต้องการจะจับเขาและเพียงต้องการเงินของเขาเท่านั้น”
มีช่วงหนึ่งที่เฉินหลงกับหลินฟ่งเจียว (Joan Lin) มีข่าวออกมาว่าทะเลาะกันบ่อย ๆ จนมีข่าวฉาวออกมาว่า นอกจากเขาจะลงไม้ลงมือกับภรรยาแล้ว เขายังได้ทำร้ายร่างกายลูกชาย ด้วยการใช้มือเพียงข้างเดียวหยิบลูกขึ้นมาแล้วโยนข้ามห้องไปยังโซฟา การกระทำครั้งนั้นทำให้หลินเกิดความหวาดกลัว ในขณะที่เฉินหลงก็รู้สึกตัวว่าจะต้องขอโทษหลิน
ที่น่าสนใจที่สุดคือในหนังสือ “Never Grow Up” ไม่ได้เอ่ยถึง เอ็ตต้า อู๋เจ่อหลิน (Etta Ng) ลูกสาวผู้อ้างว่าตัวเองถูกเฉินหลงทอดทิ้งเลยแม้แต่น้อย
แต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ เอ็ตต้า อู๋เจ่อหลิน (Etta Ng) พยายามฆ่าตัวตาย เธอก็พยายามเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากสาธารณชน เพราะเธอไม่มีที่อยู่ เนื่องจากเธอถูกพ่อแม่ของตัวเองปรักปรำ
เฉินหลงในวัย 64 ปี ได้แต่โทษตัวเองในวัยเด็กรวมถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีต่าง ๆ ของเขาด้วย ในหนังสือได้เขียนเอาไว้ว่า เขาได้หันไปมองที่กระจกแล้วพูดกับตัวเองว่า “คุณเป็นลูกครึ่งที่แท้จริง” ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตของตัวเอง
ตอนนี้หนังสือ “Never Grow Up” มีวางจำหน่ายใน Amazon เรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : NextShark
