ในปัจจุบันหลายคนคงคิดว่าการเหยียดสีผิวหรือการเหยียดเชื้อชาติได้หมดไปแล้ว เพราะมีหลายประเทศออกมารณรงค์ในเรื่องเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แต่ความจริงจากการศึกษากลับพบว่าการแบ่งแยกเชื้อชาติและชาติพันธุ์นั้นยังคงอยู่ และส่งผลกระทบอย่างมากต่อวัยรุ่นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและเชื้อสายละตินเป็นอย่างมาก จากผลกระทบนี้ทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างเป็นไม่มีความสุข ทั้งยังอาจจะทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มคนไม่ดีในสังคมได้อีกด้วย
โดยทาง ดร. Aprile D. Benner รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ว่า จากผลการศึกษาจากเอกสารกว่า 214 เรื่อง เพื่อการกำหนดขอบเขตเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติที่ส่งผลต่อวัยรุ่นด้านการเป็นอยู่ในสังคมที่ดี มีอยู่ 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่ อารมณ์ที่แสดงออกต่อสังคม เรื่องเกี่ยวกับวิชาการ และพฤติกรรมต่าง ๆ แต่โดยรวมแล้วพบว่าสิ่งที่พบอยู่เสมอก็คือเรื่องการเหยียดผิวและความยากจนนั่นเอง
สำหรับผู้ที่เคยประสบปัญหาเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยตรงนั้น มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น แถมยังรู้สึกนับถือตัวเองลดน้อยลงตามไปด้วย สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ความสามารถในเรื่องการเรียนตกต่ำลง ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมทางเพศและการใช้ยาเสพติดสูงขึ้นอีกด้วย
จากการวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติมเป็นที่น่าแปลกใจมากที่ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันกลับได้รับผลกระทบเรื่องการเหยียดสีผิวและเหยียดเชื้อชาติน้อยมาก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าจากประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันเคยโดยกดขี่อย่างรุนแรงจากชาวอเมริกัน ดังนั้นพวกเขาจึงได้ทำการเตรียมพร้อมลูกหลานในครอบครัวให้รับมือกันเรื่องการเหยียดเอาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งต่างจากครอบครัวชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและเชื้อสายละติน
ชาวเอเชียและชาวละตินรุ่นแรกที่อพยพเข้ามายังอเมริกาต่างก็มีความหวังในการใช้ชีวิตแบบชาวอเมริกันแท้ ๆ โดยไม่ได้นึกถึงเรื่องของการโดยเหยียดเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้เองทำให้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและเชื้อสายละตินมื่อพบเจอกันเหยียดสีผิวและเชื้อชาติจึงรับมือไม่ค่อยได้ กลายเป็นทำให้อยู่ในภาวะกดดันและมีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันนั่นเอง
คำพูดของ Benner ที่เคยกล่าวไว้ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงโดย EurekAlert! ซึ่งเธอได้กล่าวเอาไว้ว่า
“การถูกแบ่งแยกเชื้อชาติและชาติพันธุ์ยังคงมีอยู่ จากหลักฐานแสดงให้เห็นแล้วว่าสังคมอเมริกันยังคงมีการเลือกปฏิบัติต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ละติน และแอฟริกันอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับคนผิวชาว เชื้อสายอเมริกันโดยแท้ ซึ่งการบ่งแยกที่แสดงออกมานั้นส่งผลต่อเรื่องของจิตวิทยาและพฤติกรรมของผู้ที่ถูกเหยียดนั่นเอง”
เรื่องนี้ ไบรท์ออนไลน์ ไม่ได้เจาะจงว่ากลุ่มคนเชื้อชาติไหนที่โดนแบ่งแยกมากที่สุด แต่อยากให้ทุกคนตระหนักว่าไม่ว่าแต่ละคนจะมีเชื้อสายอะไร ชาติพันธุ์มาจากไหน แล้วมีสีผิวอย่างไร ทุกคนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “มนุษย์” ซึ่งมีคุณค่าความเป็นคนเหมือนกันและควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : NextShark
