อัปเดตล่าสุด ผู้ใหญ่ถีบหัวเด็ก 6 ขวบ ให้การปฏิเสธ อ้างแค่ยืนคุย ขณะที่ตำรวจขอความร่วมมืองดแชร์ภาพเด็กถูกทำร้าย
17 พ.ค. 68 จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก ‘ท่านเปา’ ได้ออกมาเผยแพร่คลิป พร้อมกับระบุข้อความว่า ผู้ปกครองกระโดดถีบ เด็ก 6 ขวบ หน้าหงาย หลังไม่พอใจที่น้องเล่นกับลูกตนแล้วทำเป็นแผลถลอก ส่วนโรงเรียนอยากให้ให้อภัยกันเพราะกลัวเรื่องดัง แล้วจะทำเสียชื่อเหตุเกิดที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง จ.ตรัง
หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก โดยต้องการให้เปิดเผยใบหน้าของผู้ก่อเหตุ และดำเนินคดีถึงที่สุดเพราะเกิดเหตุในโรงเรียน
แต่ในภายหลังหลังจากมีการแชร์คลิปเป็นจำนวนมากทางเพจมีการลบโพสออกโดยไม่ทราบสาเหตุจากนั้นเพจท่านเปา อัปเดตว่า งดแชร์คลิปหรือภาพเด็ก 6 ขวบที่โดนถีบ แต่พร้อมแชร์ภาพผู้ปกครองที่ไปกระโดดถีบเด็ก

แจ้งข้อหาหนัก ผู้ใหญ่ถีบหัวเด็ก 6 ขวบ
ขณะที่เพจ สภ.เมืองตรัง” ได้ออกมาอัปเดตเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “เด็กแค่ 6 ขวบ…กลับต้องเจ็บตัวในโรงเรียน ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ไม่ปล่อยผ่าน ผู้ต้องหาโดนแจ้งข้อหาแล้ว ดำเนินคดีทันที ความยุติธรรมต้องดำเนินไป แต่ขอความร่วมมือสังคม งดแชร์ภาพหรือข้อมูลเด็ก เพราะรอยแผลทางใจ…อาจยาวนานกว่าแผลที่มองเห็นครับ ความรุนแรงกับเด็กยอมไม่ได้”

ผู้ใหญ่ถีบหัวเด็ก 6 ขวบ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ยันแค่ยืนคุย
พนักงานสอบสวนได้เชิญตัว นายวีระเกียรติ มาสอบปากคำและทำการแจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้นั้น โดยในชั้นสอบสวนนายวีระเกียรติให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นก่อนที่ ผู้ใหญ่ถีบเด็กนักเรียน
เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.วันที่ 15 พ.ค.68 ขณะที่แม่ของเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บไปรับที่โรงเรียนดังกล่าว คุณครูได้มาบอกว่า มีการทะเลาะกับเพื่อนและทำเพื่อนปากแตก ทางแม่ของเด็กจึงได้ขอโทษคุณครูและผู้ปกครองของอีกฝ่าย และ ระหว่างที่คุยกับลูกชายตัวเองอยู่นั้นเองผู้ก่อเหตุตามคลิปวงจรปิด พ่อของเด็กอีกคนได้วิ่งเข้ามากระโดดถีบเข้าที่ศีรษะของเด็กชายคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บ
หลังจากเกิดเหตุทางแม่ของเด็กผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน ก่อนที่ไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลได้รับผลแพทย์ ว่าได้รับบาดเจ็บรอยฟกช้ำที่บริเวณหลัง ใช้เวลารักษาประมาณ 7 วัน ในเวลาต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำและทำการแจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้นั้น
