Photo via: twitter Mariana Fernández
ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่หนาวเหน็บ (โพลาร์ วอร์เท็กซ์) โดยเมื่อวันพฤหัสบดี (ตามเวลาท้องถิ่น) มีอุณหภูมิลดต่ำถึง -56 องศาฟาเรนไฮต์ (-49 องศาเซลเซียส) ที่ทำให้แถบ Midwest ของสหรัฐอเมริกากลายเป็นอัมพาต และมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศอันหนาวเย็นยิ่งกว่าอาร์กติกนี้แล้วอย่างน้อย 21 คน!
Photo via: twitter NWS
โดยเจ้าหน้าที่ในหลายรัฐเชื่อมโยงสาเหตุการเสียชีวิตจำนวนมากว่าน่าจะเกิดจากอากาศที่หนาวจัด ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 12 คนหลังก่อนหน้านี้มีอย่างน้อย 9 คนในชิคาโกถูกรายงานว่าเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับความเย็น ตามรายงานของ Stathis Poulakidas แพทย์ประจำโรงพยาบาล John H. Stroger Jr. โดยเขาระบุว่าโรงพยาบาลได้พบผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแอบแฝงประมาณ 25 คนในสัปดาห์นี้ ซึ่งกรณีที่รุนแรงที่สุดคือเสี่ยงต่อการถูกตัดนิ้วมือและนิ้วเท้า
ทั้งนี้ ในบรรดาผู้ที่เชื่อว่าเสียชีวิตจากความหนาวเย็นคือนักศึกษาคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยไอโอวา โดยเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยระบุว่า Gerard Belz อายุ 18 ปี ถูกพบในสภาพแน่นิ่งในแคมปัสเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ไม่ไกลจากหอพักของเขา ซึ่งตำรวจเผยกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า มีความเป็นไปได้ที่ความหนาวจัดคือสาเหตุของการเสียชีวิต โดยอุณหภูมิช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่พบ Belz อยู่ที่ -51F (-46C) ตามการรายงานของสำนักงานอากาศแห่งชาติ (National Weather Service)
Photo via: twitter NWS
อุณหภูมิที่ติดลบหนักเช่นนี้เป็นเหตุให้ทางการสหรัฐฯ ออกคำเตือนประชาชนเกือบ 12 มลรัฐให้งดการอยู่กลางแจ้ง มีการประกาศระงับการส่งไปรษณีย์ในหลายพื้นที่ของรัฐอินเดียนา อิลลินอยส์ มิชิแกน ไอโอวา โอไฮโอ ดาโกตา และเนบราสกา
โดยความหนาวเย็นแบบสุดขั้วในรอบ 20 ปีนี้ เกิดจากปรากฏการณ์โพลาร์วอร์เท็กซ์ หรือลมวนขั้วโลกซึ่งเคลื่อนปกคลุมแถบมิดเวสต์ (Midwest) ของสหรัฐอเมริกา โดยเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศอย่าง ‘ชิคาโก’ (Chicago) ตั้งอยู่ในเส้นทางผ่านโดยตรงของลมวนนี้ ทำให้เมื่อวันพุธอุณหภูมิของเมืองนี้ลดต่ำสร้างสถิติในประวัติศาสตร์ หิมะที่ตกหนักส่งผลให้มากกว่า 30 สถิติของอุณหภูมิที่เคยมีการบันทึกไว้ถูกทำลายลงเป็นเสี่ยงๆ ทั่วมิดเวสต์ โดย Cotton มินนิโซตา มีอุณหภูมิต่ำสุดบันทึกไว้ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ -56F (-48C)
Photo via: twitter National Museum USAF
แน่นอนว่าในสภาพอากาศอันเลวร้ายนี้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยและผู้พลัดถิ่นถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในชิคาโกและเมืองอื่นๆ ซึ่ง Stephen Evans เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของลอเรนเคาน์ตี้ เผยกับหนังสือพิมพ์ Chronicle-Telegram ว่า มีการพบศพหญิงวัย 60 ปีในบ้านร้างในลอเรน โอไฮโอ โดยเขากล่าวว่า “ถ้าคุณไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งความร้อนที่ตัวเองจะสามารถอยู่รอดได้นานในสภาพอากาศเช่นนี้ ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตรอด”
ตามข้อมูลของ Refinitiv ผู้ให้ข้อมูลทางการเงิน ระบุว่า บ้านเรือนประชากรรวมถึงองค์กรธุรกิจต่างมีความจำเป็นต้องใช้ก๊าซธรรมชาติในปริมาณมากเพื่อเพื่อต่อสู้กับความเย็นทำให้ผู้บริโภคประหยัดพลังงานเพื่อไม่ให้ไฟฟ้าดับ โดย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส ในดีทรอยต์ (Detroit) งดการผลิตที่โรงงานในรัฐมิชิแกน 11 แห่ง เพื่อลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ ส่วน Fiat Chrysler Automobiles NV มีการยกเลิกรอบการทำงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่โรงงานสองแห่ง อีกทั้งหิมะและน้ำแข็งได้สร้างสภาพการเดินทางที่เลวร้ายบนท้องถนน โดยมีเหตุชนกัน 26 ครั้งภายในสองชั่วโมงเมื่อวันพฤหัสบดีในแถบตะวันออกของจอห์นสัน เคาน์ตี้ ไอโอวา
Photo via: twitter NWS
นอกจากนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีลมแรงติดต่อกันถึงสองวัน ทำให้สายการบินของสหรัฐฯ ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 2,000 เที่ยว ซึ่งชิคาโกได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยการอ้างอิงจากแทร็กกิ้งไซต์ของ FlightAware ชี้ให้เห็นว่า สนามบินนานาชาติโอแฮร์ (O’Hare International Airport) ประสบกับการยกเลิกมากกว่า 700 รายการ
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าอากาศจะดีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ก็ก็มีการพยากรณ์ว่าลมวนขั้วโลกนี้อาจจะกลับมาอีกครั้ง
ที่มา: www.reuters.com