จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Papae Phatcharee ได้โพสต์คลิปวิดีโอพยาธิตัวตืดขนาดใหญ่ พร้อมข้อความว่า “ตอนแรกคิดว่าไส้หลุด มันคือพยาธิตืด พยาธิใบไม้ เพราะกินของดิบ มันยังมีอีกเยอะที่อยู่ในร่างกาย กำลังไปหาหมอ กลัวตัวเอง” ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยในคลิปเห็นได้ว่าเจ้าพยาธิตัวดังกล่าว กำลังดิ้นและเคลื่อนไหวอยู่แบบสด ๆ อีกด้วย
ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจและเป็นอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวของเรามาก ๆ ตามที่เพจดัง Drama-addict ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายในการซื้อยาถ่ายพยาธิมารับประทานเอง เพราะที่จริงแล้วนั้น การซื้อยาถ่ายพยาธิมารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้ร่างกายของเราประสบกับอาการต่าง ๆ ที่แย่และหนักไปกว่าเดิม จนถึงขั้นพยาธิขึ้นสมองได้
แล้วพยาธิตัวตืดคืออะไร เข้ามาอยู่ในร่างกายของเราได้อย่างไร รวมถึงเราควรดูแลร่างกายแบบไหน ไบรท์ออนไลน์รวบรวมข้อมูลดี ๆ ไว้แล้ว เริ่มศึกษากันได้เลย…
พยาธิตัวตืด เป็นพยาธิตัวแบน สีขาวขุ่น ลำตัวมีลักษณะเป็นปล้อง การติดเชื้อพยาธิตัวตืดมักเกิดจากการบริโภคไข่หรือตัวอ่อนของพยาธิ ซึ่งมักเป็นชนิดพยาธิตืดวัว (Taenia Saginata) และพยาธิตืดหมู (Taenia Solium) โดยตัวอ่อนจะพัฒนาเป็นพยาธิตัวเต็มวัยและอาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์ได้นานถึง 30 ปี และอาจมีความยาวกว่า 15.2 เมตร ซึ่งไข่และตัวอ่อนของพยาธิสามารถเข้ามาสู่ร่างกายได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารกึ่งดิบกึ่งสุก การดื่มน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระของสัตว์หรือผู้ป่วยที่ติดเชื้อพยาธิตัวตืด หรือแม้กระทั่งการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อพยาธิตัวตืดเองก็ตาม เพราะไข่ของพยาธิอาจหลุดปนมากับอุจจาระ และอาจติดตามผิวหนัง เสื้อผ้า และอาหารได้นั่นเอง
ทำไงดี… ถ้ามี ‘ตัวตืด’
การติดเชื้อพยาธิตัวตืดส่วนใหญ่รักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยาที่มีฤทธิ์เป็นพิษต่อพยาธิตัวเต็มวัย เช่น พราซิควอนเทล อัลเบนดาโซลและนิโคลซาไมด์ โดยแพทย์จะจ่ายยาเพื่อรักษาตามชนิดพยาธิและตำแหน่งที่พยาธิอาศัยอยู่ นอกจากนี้ หากพบว่าพยาธิตัวตืดแพร่กระจายและลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แพทย์จะพิจารณาบริเวณที่พยาธิอาศัย ระดับความรุนแรงของการติดเชื้อ และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรถือวิสาสะซื้อยาถ่ายพยาธิมารับประทานเองเป็นอันขาด เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของเราได้มากกว่าเดิม จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ดูแลตัวเองให้ดี… หลีกหนี ‘ตัวตืด’
หากคุณไม่อยากเป็นอีกคนที่ประสบพบเจอกับเจ้าพยาธิตัวตืดนี้ ทางเราก็ได้รวบรวม แนวทางการปฏิบัติตัวมาไว้ให้ทุกคนแล้ว ซึ่งหนทางนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อพยาธิตัวตืดได้
- เลิกรับประทานเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อควาย และเนื้อปลาแบบดิบ ๆ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ โดยการปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึงก่อนบริโภคด้วยอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 52 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อฆ่าไข่และตัวอ่อนของพยาธิ
- แช่แข็งเนื้อหมูและเนื้อวัวอย่างน้อย 12 ชั่วโมง และแช่แข็งเนื้อปลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนนำเนื้อสัตว์มาประกอบอาหาร
- ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทานทุกครั้ง
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ก่อนสัมผัสหรือรับประทานอาหาร และหลังจากเข้าห้องน้ำหรือสัมผัสกับสัตว์
- ควรใส่ใจสุขอนามัยของตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะหากต้องคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ
- ผู้ป่วยที่ติดเชื้อพยาธิตัวตืดต้องเข้ารับการรักษาให้หายขาด ถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ และไม่ถ่ายอุจจาระเรี่ยราดตามพื้นดินหรือสนามหญ้า รวมทั้งไม่นำอุจจาระไปทำเป็นปุ๋ย
- หากจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดติดเชื้อจากพยาธิตัวตืด ควรรักษาสุขอนามัยมากเป็นพิเศษ โดยเลือกดื่มน้ำสะอาด และปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทานเสมอ
ความน่ากลัวเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณแน่ ๆ หากคุณหันมาใส่ใจในเรื่องของหลักโภชนาการสักหน่อย ทั้งนี้การไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสุขภาพอย่างเป็นประจำก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณห่างไกลจากเจ้าพยาธิตัวตืดได้เช่นกัน เห็นข่าวทางโซเชียลขนาดนี้แล้ว รักตัวเองกันเถอะนะ ไบรท์เป็นห่วง
ขอบคุณข้อมูลจาก : Papae Phatcharee, Drama-addict , pobpad
