6 ประโยชน์ของ ‘สังกะสี’ ที่ผู้หญิงต้องรู้! (และผู้ชายก็ไม่ควรพลาด)

เชื่อว่าแทบทุกคนต้องคุ้นเคยกับชื่อของ ‘สังกะสี’ (Zinc) อยู่แล้ว (ไม่ใช่สังกะสีมุงหลังคานะคะ) ใช่ค่ะ… เรากำลังพูดถึง ‘แร่ธาตุ’ ชนิดหนึ่งซึ่งคุณอาจได้ยินเพียงชื่อ แต่ไม่เคยรู้จัก ‘ประโยชน์’ ของมันมาก่อน ดังนั้น วันนี้ไบรท์ออนไลน์จะมาบอกให้คุณรู้ถึง 6 ประโยชน์ของสังกะสี ว่าดีต่อสุขภาพของคุณอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่นว่ารู้จักสังกะสีให้มากขึ้นก่อนค่ะ ต้องอธิบายก่อนว่าเมื่อสังกะสีเป็นแร่ธาตุนั่นหมายถึงการจะบริโภคนางเข้าไปในร่างกายนั้นคุณจำเป็นต้องกินในปริมาณที่น้อยมากเพื่อสุขภาพที่ดี อันนี้ไบรท์ไม่ได้มโนขึ้นมาเองแต่เป็นคำบอกเล่าจากผู้เชี่ยวชาญ 2 คน คือ Amanda Bontempo และ Amy Gorin (เจ้าของ Amy Gorin Nutrition ในนิวยอร์ก) ค่ะ โดย Gorin พูดถึงปริมาณสังกะสีที่ ‘ผู้หญิง’ ควรได้รับในแต่ละวันไว้ว่า ผู้หญิงอายุ 19 ปีขึ้นไปต้องการสังกะสี 8 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนหญิงตั้งครรภ์ต้องการ 11 มิลลิกรัม และผู้หญิงให้นมบุตรต้องได้รับสังกะสีในปริมาณ 12 มิลลิกรัมต่อวัน

นอกจากนี้ Bontempo ยังบอกด้วยว่าเนื่องจากร่างกายของคนเรามีความต้องการสังกะสีในปริมาณที่น้อยมากทำให้เราไม่จำเป็นต้องกินเยอะๆ เพื่อให้ได้แร่ธาตุชนิดนี้แม้มันจะมีประโยชน์มากก็ตาม ซึ่งข้อดีคือ ไม่ต้องใช้เวลามากมายเลยในการที่จะรู้ว่าร่างกายของเราขาดธาตุสังกะสีหรือเปล่า เพราะเพียงนิดเดียวก็รู้เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราเห็นผลกระทบต่อสุขภาพหากร่างกายเราขาดมัน

เอาล่ะ… รู้จักสังกะสีกันพอสังเขปแล้ว มาดูประโยชน์ 6 อย่างของนางกันดีกว่าค่ะ

1. ช่วยดูแลให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง

สังกะสีจะช่วยป้องกันสารพิษและสารแปลกปลอมอื่นๆ ที่คุกคามภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา ทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนา T-cells ซึ่งช่วยต่อสู้กับเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็ง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วการขาดธาตุสังกะสีจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของเราอ่อนแอลง เราจึงเจ็บป่วยได้ง่าย…แน่นอนค่ะว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย

2. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

สังกะสีมีบทบาทในการสังเคราะห์ จัดเก็บ และปลดปล่อยอินซูลินในตับอ่อนค่ะ โดยอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ซึ่งสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้นการขาดสังกะสีอาจส่งผลเสียต่อระดับอินซูลิน อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงลบในความอยากอาหารและระดับน้ำตาลในเลือด

3. สังกะสีช่วยเยียวยาการบาดเจ็บ

สังกะสีมีปฏิกิริยากับเกล็ดเลือดเพื่อช่วยในเรื่องการแข็งตัวของเลือด ดังนั้น การได้รับสังกะสีเพียงพอจึงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดและรักษารอยแผลให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการเยียวยารักษาของสังกะสีจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และไม่มีกฎที่แน่นอนตายตัวค่ะ

4. ช่วยระบบย่อยทำงานได้อย่างราบรื่น

สังกะสีทำงานได้กับโปรตีนในทุกอวัยวะและมีส่วนช่วยการทำงานของเอนไซม์เกือบ 100 ชนิดในกระบวนการที่แตกต่างกัน หนึ่งในนั้นคือการย่อยอาหาร โดยสังกะสีทำหน้าที่เป็นปัจจัยร่วมในกิจกรรมของระบบทางเดินอาหารจำนวนมาก นั่นหมายความว่าร่างกายของเราจะไม่สามารถย่อยอาหารและดูดซับสารอาหารได้อย่างเหมาะสมหากไม่มีเจ้าแร่ธาตุตัวนี้นั่นเองค่ะ

5. ช่วยเรื่องการรับรส

โดยปกติแล้วตัวรับรสชาติส่วนใหญ่ของคนเราอยู่ในโพรงจมูกค่ะ ประสาทสัมผัสทางจมูกและทางลิ้นจึงสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก และสังกะสีก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับรู้รสทั้งสองอย่างนี้ ดังนั้น หากคุณเริ่มตระหนักว่าตัวเองไม่ได้กลิ่นหรือรับรสบางอย่างไม่ได้เหมือนเคย อาจเดาได้เลยค่ะว่าเป็นเพราะร่างกายของคุณมีระดับสังกะสีในระดับที่ต่ำมากเกินไป

6. ช่วยเผาผลาญ

สังกะสีเป็นตัวช่วยชั้นดีในการเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน เมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของคุณขาดแร่ธาตุชนิดนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าพลังงานในร่างกายลดน้อยลง และเฉี่อยชา แน่นอนค่ะ…อาจลดน้ำหนักได้ยากขึ้นด้วย

แม้จะมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย แต่ต้องจำไว้ให้ดีนะคะว่าร่างกายของเราต้องการแร่ธาตุชนิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น คุณแทบไม่จำเป็นต้องกินวิตามินหรืออาหารเสริมใดๆ ที่อุดมด้วยสังกะสีเลย เพียงแต่ให้เลือกกินอาหารที่มีธาตุสังกะสีมากขึ้นก็พอ อย่างเช่น พืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช หอย และโยเกิร์ตค่ะ