หลายคนน่าจะพอทราบนะคะว่า ‘กล้วยไม้’ คือหนึ่งในไม้ประดับที่ได้รับความนิมยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงปี 1800 ที่ชาวยุโรปมีความหลงใหลกล้วยไม้กันแบบฟีเวอร์สุดๆ ถึงขั้นมีการขนานนามว่าเป็น ‘ยุคคลั่งกล้วยไม้’ (Orchidelirium) เลยทีเดียว
แต่ก็อย่างที่รู้กันดีค่ะว่าแม้จะดูเหมือนเป็นไม้ที่ ‘อยู่ง่าย…เสียหายยาก’ แค่ไหน แต่เจ้าไม้ประดับชนิดนี้ก็ ‘เลี้ยงยาก’ และต้องการความเข้าใจ การเอาใจประคบประหงมพอสมควรค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่า อย่าเพิ่งคิดครอบครองเป็นเจ้าของเลย ถ้าคุณยังไม่เคยรู้ 7 เรื่องต่อไปนี้ที่เรากำลังจะนำมาบอก เพราะการเลี้ยง ‘กล้วยไม้’ ไม่กล้วยนาจา
1.
แม้จะดูคล้ายๆ กันไปหมด แต่ต้องบอกเลยว่า ‘กล้วยไม้’ มีจำนวนมากกว่า 25,000 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่นิยมปลูกเป็น houseplant ได้แก่ สกุลรองเท้านารี (Lady’s Slipper Orchid), สกุลออนซิเดียม (Oncidiums), สกุลแพนซี่ (pansy orchids), สกุลผีเสื้อกลางคืน (moth orchids) และสกุลเขากวางอ่อน (Phalaenopsis)
2.
กล้วยไม้สกุลเขากวางอ่อน คือกล้วยไม้เติบโตง่ายที่สุด เหมาะที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นเลี้ยงค่ะ เพราะพวกนางสามารถเจริญเติบโตในที่มีแสงน้อยและไม่ต้องการความชื้นเท่าไรนัก
3.
อย่าปลูกกล้วยไม้ในดิน เพราะพวกนางคือพืชตระกูลกาฝาก (epiphytes) ที่ชื่นชอบสภาพแวดล้อมแบบเขตร้อนจึงเจริญเติบโตได้ดีบนต้นไม้ (ไม่ใช่ในดิน) ดังนั้น ควรปลูกพวกนางในกระถางด้วยเศษไม้หรือเปลือกไม้จะทำให้พืชชนิดนี้แฮปปี้ที่สุดค่ะ
4.
กล้วยไม้ชอบพื้นที่แน่นๆ ดังนั้น ต่อให้เห็นว่านางกำลังเติบโดตก็ยังไม่ต้องเปลี่ยนกระถางใหม่ที่ใหญ่ขึ้นหรอกค่ะ จนกว่าจะเห็นว่ารากยาวๆ ของกล้วยไม้เลื้อยผ่านรูของกระถางและห้อยอยู่กลางอากาศ เปลี่ยนตอนนั้นยังทันค่ะ เว้นแต่คุณเพิ่งซื้อกล้วยไม้ต้นใหม่มาสดๆ ร้อนๆ วันนี้แล้วมันอยู่ในกระถางแบบอื่น คุณจะต้องเปลี่ยนมาใช้กระถางสำหรับกล้วยไม้ทันทีจ้า
5.
กล้วยไม้จะเบ่งบานได้ดีในสภาพอากาศเขตร้อน (เช่นเมืองไทยเรา) ดังนั้น ในต่างประเทศเขาจะมีการควบคุมอุณหภูมิให้ใกล้เคียงบ้านเรามากที่สุดเพื่อให้กล้วยไม้อยู่รอดและเติบโตได้ดี ส่วนบ้านเราซึ่งสภาพอากาศได้เปรียบก็แค่อย่าให้นางโดนแดดมากไป หรือได้รับน้ำมากเกินไปก็พอที่จะทำให้ดอกกล้วยไม้คงความงามอยู่ได้นานหลายเดือนค่ะ
6.
อย่า! วางก้อนน้ำแข็งบนกล้วยไม้ ผู้เลี้ยงหลายคนอาจขี้เกียจหรือคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สุดแสนจะชาญฉลาดในการให้กล้วยไม้ค่อยๆ ได้รับน้ำทีละน้อย(อย่างที่สายพันธุ์ของนางชื่นชอบ) ด้วยการนำก้อนน้ำแข็งไปวางไว้ที่กล้วยไม้แล้วให้มันละลายช้าๆ เพื่อให้รากของกล้วยไม้ค่อยๆ ดูดซับ และหลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป ซึ่งเป็นวิธีที่ ‘ไม่โอเค’ เลยค่ะ เนื่องจากอาจทำให้พืชชนิดนี้เป็นตะคริวและตายได้ ดังนั้น ลองนำเปลือกไม้หรือกาบมะพร้าวมาช่วยดูดซับน้ำแล้วรดน้ำด้วยวิธีปกติดีที่สุดค่ะ
7.
พรุ่งนี้ค่อยรดน้ำ เนื่องจากกล้วยไม้ไม่ใช่พืชที่ชื่นชอบน้ำมากนัก เราจึงไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน แต่จะรู้ได้ยังไงล่ะว่า ‘ถึงเวลารดน้ำหรือยัง’ ลองใช้วิธีนี้ค่ะ … เหลาดินสอให้แหลมแล้วทิ่มด้านแหลมเข้าไปกลางลำต้น หากกล้วยไม้มีน้ำเพียงพอ หัวแหลมๆ นั้นจะชื้นและเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น หรือให้ง่ายกว่านั้นคือ ถ้าวันนี้คุณคิดว่าควรรดน้ำกล้วยไม้แล้ว… อย่าเพิ่งรดค่ะ! รออีก 1 วัน พรุ่งนี้ค่อยจัดการก็ได้
เห็นมั้ยคะว่าเรื่องของ ‘กล้วยไม้’ นั้น…ไม่กล้วยเลย แต่เอาน่า! อยากปลูกอยากเลี้ยงนี่นาเอาใจเค้าหน่อยเนาะ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเมื่อคุณเลี้ยงจนพวกนางเติบโตเบ่งบานผลิดอกแล้ว คุณจะ ‘รัก’ และ ‘หลงใหล’ ไม้ดอกชนิดนี้สุดๆ เลยล่ะ
ที่มา: www.gardenista.com