ยังไงสิ?! ปู่วัย 98 ปี หอบสังขารพร้อมเสื้อยืดเปื้อนเลือด โล่แจ้งความจับถูกลูกสาวแท้ ๆ หลังถูกทำร้ายร่างกาย สุดท้ายคดีพลิก พ่อแค่อารมณ์แปรปวน
เมื่อเวลา 18.00 น วันที่ 29 เมษายน 67 นายมโน ขอสงวนนามสกุล อายุ 98 ปี พักอยู่ย่านถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี หอบสังขารถือไม้เท้า ใส่เสื้อยืดที่เปื้อนเลือด รวมทั้งมีบาดแผลที่แขนซ้ายเป็นรอยช้ำและเลือดไหลจากการถูกรอยเล็บจิกทำร้าย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับลูกสาวที่ทำร้ายตนเองจนบาดเจ็บในครั้งนี้
คุณปู่มโน เล่าว่า ภรรยาตนเสียชีวิตไป 20 กว่าปีแล้ว ตนพักอาศัยอยู่กับลูกสาวคนโต ส่วนคนเล็กมีครอบครัวไปอยู่กับสามี ตนมักจะถูกลูกสาวทำร้ายประจำ โดยไม่มีสาเหตุ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับลูกสาวตัวเองด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำและเตรียมดำเนินการให้ ปรากฏว่าคุณปู่มโน เกิดเปลี่ยนใจและไม่ประสงค์จะขอดำเนินคดีกับลูกสาว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งเดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี ทำการล้างบาดแผลใส่ยาฆ่าเชื้อ และปฐมพยาบาลให้กับปู่มโน ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิจะนำคุณปู่มโนขึ้นรถตู้มูลนิธิพากลับไปส่งยังที่บ้านพัก
ทันทีที่ลงจากรถคุณยุ้ย อายุ 62 ปี ลูกสาวของคุณปู่มโน ได้ออกมารับคุณพ่อ และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายทำร้ายคุณพ่อเลย ก่อนที่คุณพ่อจะไปโรงพักได้ด่าทอตนเองซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกวัน เนื่องจากคุณพ่อป่วยหลายโรคต้องกินยา ก่อนเกิดเหตุ ตอนกลางวันกับข้าว มันบูดตนเห็นจึงได้รีบเอาออกมา ไม่ให้พ่อกินและบอกพ่อว่ามันบูดแล้วกินไม่ได้ พ่อจึงบอกให้ตนเองหาขนมมาให้กินก็ได้ จากนั้นพ่อก็หลับไป พอตื่นขึ้นมาก็มาด่าว่าตนเองอย่างหยาบคายเสียเสียหายฟังไม่ได้ และตรงเข้ามาจะทำร้าย ชกเข้าที่ใบหน้าตนจนเขียวช้ำอย่างที่เห็น ตนพยายามป้องกันตัว และฉุดมือดันไม่ให้คุณพ่อเข้ามาใกล้
คุณยุ้ยกล่าวต่อทั้งน้ำตาว่า ตนไม่รู้จะทำยังไงตอนคุณพ่อจะออกไปโรงพักตนยังสั่งข้าวหน้าเป็ดมาไว้ให้พ่อทาน แต่พ่อก็หาว่าตนเล่ห์เหลี่ยมเยอะให้กินข้าวบูดๆ ทั้งๆที่ข้าวบูดนั้นตนเป็นคน ไม่ให้พ่อกิน แต่คุณพ่อก็ไม่เข้าใจ หาว่าตนเอามาให้กิน ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ขณะที่คุณปู่มโนนั่งอยู่ข้างๆ ยืนยันว่าจะขอไปอยู่บ้านพักคนชรา ขอให้ประสานเจ้าหน้าทีด้วยไม่ขออยู่กับลูกสาวคนนี้อีกแล้ว
ส่วนคุณตุ๋ย เจ้าของบ้านที่ให้ 2 พ่อลูกเช่าอยู่อาศัย กล่าวว่า คุณตาเขามีอาการทางจิตเวชนิดๆ ที่ผ่านมา ตนก็เห็นลูกสาวดูแลคุณพ่อดีนะ แต่มาปี 2 ปีนี้ อารมณ์ของคุณตาแกจะแปรเปลี่ยน มักดุว่าด่าทอลูกสาวประจำหากวันไหนไม่ได้กินยา ตนเป็นพยานยืนยันได้ว่าลูกสาวไม่ได้ทำร้ายพ่ออย่างแน่นอน ส่วนบาดแผลที่เห็นคุณตาแกอายุเยอะแล้ว พอคว้าตัวหรือจับก็จะช้ำอย่างที่เห็น ยืนยันลูกสาวไม่ทำร้ายพ่อ จากนี้ไปก็จะพยายามพูดจาและ ให้ลูกสาวดูแลคุณตาให้ดี ไม่อยากให้ทะเลาะกันเพราะเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ
