แกงเขียวหวาน | นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้เรื่องราวของดราม่าร้อนๆ ที่เรียกได้ว่าระอุยิ่งกว่าอากาศในประเทศไทยช่วงเมษายนตอนนี้ซะอีก นั่นคือ #แกงเขียวหวาน250 ของเน็ตไอดอลชื่อดังอย่าง นัท นิสา และเพื่อนร่วมแก็งอย่าง ตูน หิ้วหวี แต่ไม่ว่าดราม่าจะจบลงอย่างไรนั้นทางเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ แต่พอเห็นดราม่านี้ปุ๊บก็อดไม่ได้ที่รู้สึกอยากจะรับประทานแกงเขียวเขียวขึ้นมาทันที วันนี้เราเลยนำวิธีการทำแกงเขียวหวานง่ายๆ มาฝากทุกคนกันค่ะ
ถ้าพูดถึง “แกงเขียวหวาน” จัดว่าเป็นแกงไทยโบราณที่มีชื่อเสียงไปไกลทั่วโลก ย้อนกลับไปในสมัยก่อนคนไทยยังไม่รู้จักการนำกะทิมาทํากับข้าว จะทำแกงประเภทไม่มีกะทิซะส่วนใหญ่ หน้าตาของแกงที่ออกมาก็จะคล้ายคลึงกับ “แกงป่า” ที่เรารับประทานกันในปัจจุบัน ในส่วนของแกงกะทินั้นได้รับอิทธิพลมาจากชาวต่างชาติ เริ่มนํากะทิมาทํากับข้าว จนกลายเป็น “แกงเผ็ด” และกลายเป็น “แกงเขียวหวาน” ในที่สุด
ซึ่งในปัจจุบันแกงเขียวหวาน เป็นแกงที่นิยมกันในประเทศไทย เรียกได้ว่าไปร้านข้าวแกงร้านไหนก็ต้องเจอแน่นอน แกงเขียวหวานมักจะนิยมนำทานกับขนมจีน หรือข้าวสวยร้อนๆ ที่พริกแกงมีสีเขียวเพราะใช้พริกขี้หนูสดสีเขียว ซึ่งวิธีการทำแกงเขียวหวานในแต่ล่ะบ้านก็จะแตกต่างกันออกไป แต่หลักๆ ก็คือต้องมีพริกแกง กะทิ เนื้อสัตว์ และวัตถุดิบอื่นๆ เรามาดูวิธีการทำแกงเขียวหวานกันเลยดีกว่าค่ะ

ส่วนผสมจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนผสมของตัวพริกแกง และวัตถุดิบของตัวแกงเขียวหวาน ส่วนผสมของตัวพริกแกงประกอบไปด้วย พริกชี้ฟ้าเขียว พริกขี้หนูสวนเขียว กระเทียมไทย หอมแดง ข่า ตะไคร้ รากผักชี ผิวมะกรูด ขมิ้นสด พริกไทยขาวเม็ด ลูกผักชีคั่วป่น ยี่หร่าคั่วป่น เกลือ กะปิ ขโลกเครื่องแกง โดยการใส่ส่วนผสมลงไปในครกทีละนิด จนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

ต่อมาในส่วนของวัตถุดิบแกงเขียวหวาน เนื้อสัตว์ สามารถเลือกได้ตามใจชอบ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว ลูกชิ้นปลากราย ซึ่งที่เราจะเห็นกันบ่อยๆ ในยุคนี้ก็จะมีการใส่คือเลือดด้วย ต่อมาคือวัตถุดิบที่เรียกได้ว่าเป็นเมนหลักของเมนูอีกอย่างเลยก็ว่าได้นั่นคือ “กะทิ” ซึ่งเราใช้ทั้งส่วนหัวกะทิและหางกะทิด้วย มะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบมะกรูดฉีก โหระพาเด็ดเป็นใบ เครื่องปรุงอย่าง น้ำปลา น้ำตาลทราย บางบ้านอาจใช้เป็นน้ำตาลปี๊บซึ่งสามารถใช้ได้เหมือนกันแต่ว่าความหวานจะแตกต่างกันก็ต้องลองดูกันนะคะว่าใครชอบรสหวานแบบน้ำตาลชนิดไหนมากกว่ากัน เลือกให้ถูกปากเราก็พอค่ะ

มาถึงวิธีการทำก็ง่ายๆ เริ่มต้นจากตั้งหัวกะทิโดยใช้ไฟแรงปานกลาง เคี่ยวให้แตกมันแต่พอดี ใส่พริกแกงเขียวหวานที่เราโขลกไว้ลงไปผัดให้สุก ค่อยๆ เติมหัวกะทิที่เหลือทีละน้อย ผัดจนแตกมันแต่พอดีอย่าแตกมันมากจนเกินไปเพราะจะทำให้เลี่ยนตอนรับประทาน ต่อมาใส่เนื้อสัตว์ที่เราเตรียมไว้ลงไปผัดให้ทั่ว ใส่ใบมะกรูดฉีก เติมหางกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไปในขณะที่น้ำแกงเดือดเพราะจะทำให้มะเขือไม่เหม็นเขียว หลังจากนั้นคนให้เข้ากัน และปิดฝาหม้อ ป้องกันไม่ให้มะเขือดำ ต้มจนมะเขือสุก ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ใบโหระพา ปิดไฟ เพีงเท่านี้ก็จะได้แกงเขียวหวานแสนอร่อยไว้รับประทานเองในครอบครัวแล้วแหละคะ