โอเปกพลัส ปรับเพิ่มการผลิตเป็น 1.1 MMBD ท่ามกลางสงครามการค้าระกว่างสหรัฐฯกับจีน และการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่าน

KNG 9051

หลังจากสถานการณ์โควิด (COVID-19) ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกได้ปรับตัวลดลงราคาน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลายราคาน้ำมันก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนั้นโลกต้องเผชิญกับสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนและสงครามความไม่สงบในตะวันออกกลาง ทั้งหมดได้ส่งผลกระทบให้อุปทานน้ำมันชะงักตัวลง ดังนั้นจะเห็นได้ว่านอกจาก OIL DEMAND แล้ว OIL SUPPLY ก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อราคาน้ำมันโลกได้ไม่น้อยเช่นกัน

IMG20241121151157 0-min

ในส่วนของผู้ผลิตน้ำมันโลกหรือ OIL SUPPLY แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน คือ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกพลัส
(OPEC+) และกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกพลัส (Non-OPEC+) ซึ่งถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีการครอบครองตลาดมากกว่า 50% แต่ในปัจจุบันกำลังการผลิตได้ถูกเปลี่ยนมือมาทางฝั่งนอกกลุ่มโอเปกพลัส (Non-OPEC+) แทน และในปี 2568 ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกพลัส (Non-OPEC+) จะมีบทบาทสำคัญในตลาดโลก โดยคาดว่าจะครองส่วนบางการผลิตน้ำมันถึง 58% หรือ 60 MMBD ซึ่งปรับเพิ่มขึ้น 1.4 MMBD จากปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการขยายกำลังการผลิตจากโครงการใหม่ๆ ดังจะเห็นได้จากภาค SUPPLY ของปัจจัยในประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัส (Non-OPEC+) เหล่านี้ ได้แก่

สหรัฐอเมริกา

บทบาทในการผลิตน้ำมันของสหรัฐอเมริกาได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นั่งคือปัจจุบันสหรัฐอเมริกาได้พัฒนา เทคโนโลยีที่ใช้ในการขุดเจาะน้ำมันที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถสำรวจและวางแผนการขุดเจาะในแหล่งน้ำมันที่มีศักยภาพในการผลิตน้ำมันได้มากกว่า อีกทั้งยังได้ลงทุนด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมด้วยมูลค่ากว่า 220 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา ประกอบกับนโยบายจากประธานาธิบดีคนใหม่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งเสริม ให้มีการขุดเจาะน้ำมัยภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดว่ากำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐอเมริกาในปี 2568 จะถึงระดับสูงสุดได้

แคนาดา

ประเทศที่มีกำลังการผลิตที่เติบโตรองลงมาจากสหรัฐอเมริกาคือ แคนาดา โดยขยายศักยภาพในการขนส่งของท่อขนส่งน้ำมัน Trans Mountain (TMX) จากระดับ 0.3 MMBD ปรับเพิ่มสูงขึ้นไปที่ระดับ 0.89 MMBD ส่งผลให้สามารถแก้ปัญหาข้อจำกัดในการส่งออกน้ำมันของแคนาดา โดยสามารถส่งออกน้ำมันไปยังโรงกลั่นแถบตะวันตกของสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งส่งไปยังตลาดต่างประเทศได้โดยตรง โดยเฉพาะในเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย และเกาหลีใต้

บราซิล

อีกประเทศหนึ่ง คือ บราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่ได้เปรียบทางด้านลักษณะทางธรณีวิทยา โดยมีแหล่งน้ำมันในระดับชั้น Pre-salt ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในระยะหลังบราซิลได้พัฒนาเทคโนโลยีในการขุดเจาะน้ำมันที่ทนแรงดันสูง ทำให้สามารถขุดเจาะน้ำมันได้ในระดับชั้นลึกขึ้นได้ ส่งผลให้บราซิลมีกำลังการผลิตน้ำมันภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในแถบอเมริกาใต้

กายอานา

เมื่อปี 2558 ได้มีการค้นพบน้ำมันดิบ 1 หมื่นล้านบาร์เรลที่บริเวณนอกชายฝั่งทะเลของประเทศกายอานา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนขุดเจาะน้ำมันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มกำลังการผลิตของ FPSO (Floating Production Storage and Offloading) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 มีโครงการ Yellowtail ที่มีกำลังการผลิตของ FPSO ที่ระดับ 0.25 MMBD ทำให้คาดว่ากำลังการผลิตน้ำมันของกายอานาจะสามารถใกล้ระดับเกือบ 0.9 MMBD ได้

IMG20241121151350 0-min

ส่วนกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 42% เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตทั้งหมด โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกพลัสต้องเผชิญกับประเด็นปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ สงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน สงครามความไม่สงบในตะวันออกกลาง และประเทศที่ถูกคว่ำบาตรจากประเทศมหาอำนาจ ได้แก่

เวเนซุเอลา

ประเทศเวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกคว่ำบาตรอีกทั้งมีปัญหาการเมืองภายใน จึงทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งการไม่มีโอกาสที่จะถูกยกเลิกคว่ำบาตรจึงส่งผลให้กำลังการผลิตภายในประเทศไม่มีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้นได้

อิหร่าน

ประเทศอิหร่านเป็นประเทศที่ถูกคว่ำบาตรจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ในสมัยนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2561 ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตที่เข้มงวดทำให้อิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันไปประเทศต่าง ๆ ได้ ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันปรับลดลง กำลังการผลิตภายในประเทศจึงปรับลดลง จนมาถึงช่วงประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรลง ทำให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันได้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะส่งออกไปประเทศจีน นอกจากนี้อิหร่านยังได้ร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม BRICS ที่มีกำลังการผลิต คิดเป็น45% ของกำลังการผลิตทั้งหมด โดยถ้าหากกลุ่มนี้มีแนวคิดในการสร้างระบบการเงินของตัวเองขึ้นมา อาจทำให้มีการลดการพึ่งพาเงินสกุลดอลลาร์ เกิดดุลอำนาจใหม่ในอุตสาหกรรมน้ำมันได้เช่นกัน ขณะเดียวกันถึงแม้จะยังคงมีสงครามความขัดแย้งในตะวันออกกลางอยู่แต่ท่าทีการปิดช่องทางการส่งออกน้ำมันจะยังคงมีความเสี่ยงในระดับต่ำ

รัสเซีย

ประเทศรัสเซียถึงแม้จะถูกคว่ำบาตรจากการทำสงครามกับยูเครน แต่ยังคงสามารถรักษากำลังการผลิตและปริมาณการส่งออกน้ำมันในระดับเดิมอยู่ได้ โดยได้ส่งออกไปยังผู้ซื้อรายใหม่ ได้แก่ จีน และ อินเดีย ได้มากขึ้น

IMG20241121151824 0-min (1)

อย่างไรก็ตามจากประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ก็อาจจะไม่ได้สร้างความกังวลให้กับตลาดว่าอุปทานจะตึงตัว เนื่องจากโอเปกพลัส (OPEC+) มีกำลังการผลิตสำรอง (Spare Capacity) เป็นจำนวนมาก โดยเป็นกำลังการผลิตที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที และคงอยู่อย่างน้อย 90 วัน โดยมีมากถึง 6 MMBD ที่มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศคูเวต เป็นหลัก ซึ่งกำลังการผลิตที่มีอยู่ในระดับสูงเป็นผลมาจากการที่กลุ่ม โอเปกพลัส (OPEC+) มีนโยบายในการปรับลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้โอเปกพลัส (OPEC+)เสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปเช่นกัน

โอเปกพลัส (OPEC+) จึงต้องรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด โดยมีนโยบายในการทยอยยุติการปรับลดกำลังการผลิตหรือปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ระดับ 0.18 MMBD ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 แม้ว่าที่ผ่านมาโอเปกพลัส (OPEC+) จะพยายามออกนโยบายในการปรับเพิ่มกำลังการผลิต แต่เนื่องจากสถานการณ์ตลาดน้ำมันที่มีอุปทานในระดับสูงทำให้ โอเปกพลัส (OPEC+)เลื่อนแผนในการปรับเพิ่มกำลังการผลิตออกไป

KNG 9044-min (1)

โดยสรุป ในปี 2568 คาดว่าจะมีกำลังการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นจากฝั่งผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกพลัส (Non-OPEC+) ปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.4 MMBD และทางกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ระดับ 1.1 MMBD ส่งผลให้อุปทานทั้งหมดในปี 2568 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 2.5 MMBD ขณะเดียวกันอุปสงค์การใช้น้ำมันทั่วโลก (OIL DEMAND) เติบโตขึ้นอยู่ที่ 1.1 MMBD ทำให้ในปีหน้าคาดว่าการเติบโตของอุปทานน้ำมันจะมากกว่าการเติบโตของอุปสงค์ถึง 1.3 MMBD แสดงให้เห็นว่าถ้าหากโอเปกพลัส (OPEC+)จะยังคงเดินหน้าปรับเพิ่มกำลังการผลิตจะทำให้ตลาดมีอุปทานส่วนเกิน ดังนั้นโอเปกพลัส (OPEC+) ควรจะทบทวนหรือปรับนโยบายในการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การตลาดและเพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันไว้

ขณะเดียวกันท่ามกลางความไม่แน่นอนจากประเด็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้ง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมไปถึงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่าน ทำให้ PRISM คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2568 จะเคลื่อนไหวในกรอบ 70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล

ที่มา: คุณญาณภา เสาวภา นักวิเคราะห์การพาณิชย์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน กลุ่ม ปตท. PRISM Experts

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

เกิดอะไรขึ้น? จันจิ โพสต์เดือด ดราม่าแรงกลางโซเชียล พร้อม ตอกกลับคนคอมเมนต์แรง!!

“จันจิ” เดือดกลางโซเชียล! ตอกกลับคนคอมเมนต์แรง – ลั่น! เป็นคนสาธารณะก็มีขอบเขตในการพูด ด้านแฟนคลับให้กำลังใจอย่างล้นหลาม กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชี […]

ขนลุก! เลี้ยงโต๊ะจีนวิญญาณ ผีตึกถล่มสิงร่างกู้ภัย ร้องลั่น กูหิว ช่วยกูด้วย (มีคลิป)

ขนลุกของจริง วิญญาณตึกถล่มเข้าสิงร่างกู้ภัยร้องลั่น กูหิว ช่วยกูด้วย ลงไปดิ้นกับพื้นดิน ก่อนที่ ไทด์ เอกพันธ์ บอกเขามาเลี้ยงแล้ว

“เบียร์ เดอะวอยซ์” เคลื่อนไหวแล้ว หลังคลิปอาบน้ำ หลุดว่อนโซเชียล เผยยอด Subscriptions พุ่ง

“เบียร์ เดอะวอยซ์” เคลื่อนไหวแล้วหลังคลิปหลุดว่อนโซเชียล เผยยอด Subscriptions พุ่ง ในวันเดียว! พร้อมเผยถึงยอดเงินจำนวนมากที่ได้ กลายเป็นประเด็นร้อนในโ […]

ชาวเน็ตยุไม่ขึ้น ดัง พันกร ชี้ไลฟ์อาบน้ำโชว์ไม่ได้ ติดเงื่อนไขสำคัญ…รับผิดชอบไม่ไหวนะ!

แม่นายพันกร ตอบแล้ว หลังชาวเน็ตเชียร์ให้ไลฟ์อาบน้ำโชว์บ้าง ถามกลับ อยากเห็นแม่โดนตัดออกจากกองมรดกเหรอ ? เป็นอันรู้เรื่อง

ใบเต็ม แม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ล่าสุด แนวทางเลขเด็ด 2/5/68 หวยวันแรงงาน

ส่องเลย ใบเต็ม แม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ล่าสุด แนวทาง เลขออกวันศุกร์ 2 พฤษภาคม 2568 ตามต่อ เลขเด็ดแม่น้ำหนึ่ง 3 ตัว 2 ตัว ต้อนรับ หวยออกวันแรงงาน

มาแล้ว เลขเด็ดล่าสุด เจ๊ฟองเบียร์ 2/5/68 แนวทาง หวยวันแรงงาน

จับตา เลขเด็ดล่าสุด เจ๊ฟองเบียร์ แนวทาง หวยออกวันศุกร์ 2 พฤษภาคม 2568 เลขเด็ดเจ๊ฟองเบียร์ 3 ตัว 2 ตัว ต้อนรับ หวยออกวันแรงงาน
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า