กกต.ชี้แจงข่าวบินดูงานตปท. เหตุตรวจความเรียบร้อยชุมชนคนไทย เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ตามคำเชิญกระทรวงบัวแก้ว
6 มี.ค.62-สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชี้แจงกรณีการปรากฏข่าวในสื่อมวลชนต่างๆ ว่า “กกต. ทุ่มงบ 12 ล้านบินดูการเลือกตั้ง ตปท. ไร้ประชุม 1 อาทิตย์” นั้น สำนักงาน กกต.ขอเรียนว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีถิ่นที่อยู่นอกราชอาณาจักร สามารถมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 109 กำหนดว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปอันมิใช่เป็นการเลือกตั้งใหม่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งมีถิ่นที่อยู่ นอกราชอาณาจักรจะขอลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ ประเทศที่ตนมีถิ่นที่อยู่ก็ได้ ในการดำเนินการจัดการออกเสียงลงคะแนนนอกราชอาณาจักรนั้น กกต.ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานสนับสนุนในการบริหารจัดการพร้อมทั้งได้โอนงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินการทั้งหมดให้ และกำหนดให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงลงคะแนนในห้วงระหว่างวันที่ 4-16 มี.ค.2562 โดยกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือเชิญ กกต. ไปตรวจติดตามภารกิจดังกล่าวในประเทศที่มีชุมชนคนไทยอยู่หนาแน่น และมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิมาก
ทั้งนี้ กกต.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นอำนาจของ กกต.ในการควบคุมดูแลการดำเนินการของกระบวนการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั้งหมด เพื่อให้ความมั่นใจว่าการดำเนินการจัดการเลือกตั้งในต่างประเทศจะเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม โดยหาก กกต.แต่ละท่านหากพบเห็นการกระทำใดอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้ง มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถใช้อำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการเลือกตั้ง หรือสั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งใหม่ ตามมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 อีกทั้งจะได้นำผลการตรวจติดตามภารกิจมาใช้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุง ปัญหา อุปสรรค ของการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในอนาคตต่อไปด้วย
ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ในระหว่างเวลานับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งใช้บังคับจนถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งหากมีความจำ เป็นเร่งด่วนต้องมีการประชุม กกต.ให้มีอำนาจประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดย กกต.แต่ละคนอาจอยู่ ณ สถานที่แตกต่างกันได้ ซึ่งในห้วงการเดินทางที่ผ่านมา ยังไม่มีประเด็นเร่งด่วนที่ กกต.จะต้องมีการประชุมเพื่อพิจารณาวินิจฉัยแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะไปออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งในต่างประเทศด้วยว่า กฎหมายได้กำหนดห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนได้ลงคะแนนแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ