กฟผ.ลงนามซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 8.3 หมื่นตัน เพื่อนำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ย้ำไม่กระทบอัตราค่าไฟฟ้า เตรียมเปิดรับซื้ออีก 7.7 หมื่นตันในเดือนก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 22 ราย ในปริมาณรวม 8.3 หมื่นตัน เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3
นายศิริ กล่าวว่า การรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ กฟผ.รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 1.6 แสนตัน ที่ราคา 18 บาท/ลิตร ซึ่งทาง กฝผ.จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กรมการค้าภายในกำหนด และรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนในราคา 3.10-3.25 บาท/กิโลกรัม เพื่อพยุงราคาน้ำมันปาล์มให้สูงกว่า 3 บาท/กก.
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฝผ.จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่เหลืออีก 7.7 หมื่นตัน เพื่อให้ครบ 1.6 แสนตัน โดยขณะนี้กรมการค้าภายในได้ขยายระยะเวลาเปิดรับสมัครผู้ประสงค์จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้ กฟผ. ไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ.2562 พร้อมปรับปรุงเงื่อนไขให้เป็นผู้จำหน่ายต้องมีที่สต็อกน้ำมันปาล์มดิบไม่น้อยกว่า 25% ของปริมาณที่เสนอจำหน่าย จากเดิมที่กำหนดให้ผู้จำหน่ายต้องมีสต็อกไม่น้อยกว่า 50% ของปริมาณที่เสนอจำหน่าย
นายวิบูลย์ ย้ำว่า การนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า จะไม่กระทบกับค่าไฟฟ้าของประชาชนแต่อย่างใด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจะไม่นำไปคิดรวมกับค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที)