นี่คือภาพขณะที่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถูกควบคุมตัว เดินขึ้นรถตู้ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. เป็นภาพสุดท้ายที่เราได้เห็น นายสรยุทธ พิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดังก่อนสิ้นอิสรภาพ เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก 13 ปี 4 เดือน ในคดีทุจริตเงินค่าโฆษณากับ อสมท.
เราจะย้อนไปดูเหตุ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมากันก่อน
นายสรยุทธ ได้เดินทางมาถึงศาลเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. โดยใช้ช่องทางด้านใต้ตึกศาลเพื่อเดินเข้าไปภายในอาคาร ขณะที่กลุ่มผู้สื่อข่าวที่รอถ่ายภาพและทำข่าว เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ให้อยู่บริเวณด้านหน้าทางขึ้นศาลซึ่งเป็นคนละจุดกับที่ นายสรยุทธ เดินเข้าไปภายในศาล โดยมี น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ หรือ “ไบรท์” // น.ส.เมจกา สุพิชญางกูร หรือ “เซน” // นายพิภู พุ่มแก้ว และ นายเอกราช เก่งทุกทาง ผู้ประกาศข่าวรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” เดินทางมาให้กำลังใจด้วย
ซึ่งการพิจารณาผ่านไป 2 ชั่วโมง ผลปรากฏว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งตัดสินจำคุก สรยุทธ สุทัศนจินดา เป็นระยะเวลา 13 ปี 4 เดือน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นตามเดิม โดยนายสรยุทธ ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและการกระทำ / นายสรยุทธ ระบุว่า ตนเองมีความดีเยอะ ซึ่งถ้าถูกพิพากษาให้จำคุก 13 ปี 4 เดือน จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก เพราะตนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นต้นแบบในสังคม แต่ทางศาลก็ยังคงมีคำสั่งยืนยันตามเดิม และให้นายสรยุทธ แยกระหว่างประเด็นความดีกับคดีทุจริตที่โกงเงินบริษัท อสมท. กว่า 138 ล้านบาท / ขณะที่ จำเลยที่ 1 นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 30 ปี / ปรับจำเลยที่ 2 บริษัทไร่ส้ม จำกัด กระทงละ 2 หมื่นบาท รวมปรับ 1.2 แสนบาท / จำเลยที่ 4 น.ส.มณฑา ธีระเดช กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 3 และ 4 คนละ 20 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 3และ 4 คนละ 13 ปี 4 เดือน และปรับจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 8 หมื่นบาท ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลยที่ 1, 3 และ 4 โดยจำเลยทั้งหมดได้ทำเรื่องขอประกันตัว และขอต่อสู้คดี
แต่ต่อมาศาลได้พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายสรยยุทธ และจำเลยร่วมทั้งหมดแล้ว ซึ่งยืนหลักทรัพย์เงินสด และบัญชีเงินฝากคนะล 4 ล้านบาทแล้วเห็นควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกาเป็นผู้สั่งประกันต่อไป ขณะนี้ศาลอาญาทุจริตฯ ได้ออกหมายขังจำเลยทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปคุมขัง โดยนายสรยุทธ ถูกนำไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนผู้ต้องขังหญิงจะถูกคุมตัวไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างรอฟังคำสั่งการประกันตัวจากศาลฎีกาอีกครั้ง คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลฎีกา พิจารณาคำร้องขอประกันตัวแล้ว ได้มีความเห็นไม่อนุญาตให้ประกันตัวจำเลย ศาลฯ จึงออกหมายขัง แล้วให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำ นายสรยุทธ กับพวกนั่งรถตู้ทะเบียน ฮข 4001 กรุงเทพมหานคร โดยมีรถเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขับนำเพื่อพาตัวไปจำคุกตามคำพิพากษาต่อไป