ครม.อนุมัติงบกลาง 3.79 หมื่นล้านบาท ให้กองทุนประชารัฐเพื่อสวัสดิการฯ นำไปช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯไปจนถึงเดือนก.ย.2562
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ 2562 จำนวน 37,900 ล้านบาท ให้กองทุนประชารัฐเพื่อสวัสดิการเศรษฐกิจและสังคม เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใน 4 มาตรการ ไปจนสิ้นสุดมาตรการในเดือนก.ย.2562
พร้อมกันนั้น ครม. ยังอนุมัติให้เพิ่มกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ เข้าไปอยู่ในโครงการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและน้ำประปาด้วย จากเดิมที่ให้สิทธิกับผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในพื้นที่บริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เท่านั้น เนื่องจากพบว่ายังมีประชาชน 51,000 ราย ที่อยู่นอกพื้นที่การให้บริการของ 2 หน่วยงาน จึงได้เพิ่มกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือเข้าไปเพื่อให้ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิ์ทั้งหมด
นายณัฐพร กล่าวว่า งบกลางที่ครม.อนุมัติดังกล่าวไม่ใช่วงเงินใหม่ แต่เป็นการอนุมัติจัดสรรงบภายใต้มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 มาตรการ กรอบวงเงินเดิม 38,730 ล้านบาท ซึ่งครม.มีมติอนุมัติไปเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2561 และหากปีนี้ ครม.อนุมัติช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯรอบใหม่ ก็จะต้องขอรับอนุมัติจัดสรรวงเงินในรอบถัดไป
สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 4 มาตรการ ได้แก่ โครงการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าเดือนละไม่เกิน 230 บาท (ธ.ค.61-ก.ย.62) และน้ำประปาไม่เกินเดือน 100 บาท (ธ.ค.61-ก.ย.62) , โครงการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าช่วงปลายปี 500 บาท (จ่ายครั้งเดียว) , โครงการบรรเทาภาระค่าเช่าบ้านของผู้สูงอายุเดือนละ 400 บาท (ธ.ค.61-ก.ย.62) และโครงการบรรเทาภาระค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ 1,000 บาท (จ่ายครั้งเดียว)