ครม.มอบ กฟผ.ซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 2 แสนตัน ใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เริ่มซื้อล็อตแรก 1 แสนตันในพ.ค.นี้ มั่นใจ มิ.ย.นี้ราคาผลปาล์มแตะ 3 บาท/กิโลกรัม
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 2 แสนตัน เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ณ โรงไฟฟ้าบางปะกง จากเดิมที่เคยรับซื้อไปแล้ว 1.6 แสนตัน โดยการรับซื้อในครั้งนี้ กำหนดรับซื้อและส่งมอบน้ำมันปาล์มล็อตแรก 1 แสนตัน ณ คลังน้ำมันปาล์มดิบ จ.สุราษฏร์ธานี ภายในเดือนพ.ค.นี้
นายศิริ ยังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการให้ส่วนลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ให้ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดา 5 บาทต่อลิตร ต่อไปอีก 2 เดือน หรือเป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.นี้ เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันดีเซลบี 20 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถกระบะที่ค่ายรถยนต์ให้การรับรองอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน และลดค่าใช้จ่ายภาคขนส่ง
“คาดว่าภายในต้นเดือนมิ.ย.นี้ ระดับสต๊อกปาล์มน้ำมันทั้งระบบจะกลับเข้าสู่สมดุล และเกษตรกรชาวสวนปาล์ม จะสามารถขายผลปาล์มได้ในระดับใกล้เคียง 3 บาท/กิโลกรัม”นายศิริกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมครม. ว่า วันนี้รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำอย่างเต็มที่ ขออย่าไปกังวลว่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับใคร เนื่องจากมีการตรวจสต็อกตลอดเวลา โดยวันนี้ได้เร่งรัดในเรื่องค่าใช้จ่ายของการนำปาล์มน้ำมันมาเป็นพลังงาน ซึ่งหากถามว่าทำไมจะต้องนำปาล์มน้ำมันไปผลิตกระแสไฟฟ้าที่จ.ชลบุรี เหตุผลก็เพราะภาคใต้ไม่มีโรงไฟฟ้าที่ใช้ปาล์มน้ำมันได้แล้ว อย่างที่จ.กระบี่ก็ยกเลิกไปแล้ว
“จะมีการจัดซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในล็อตที่ 2 เพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็ได้ให้แนวทางนโยบายไปว่า จะต้องไม่ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อลดภาระของประชาชน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกวันนี้ จะต้องมีความระมัดระวังมากที่สุด จึงอยากให้คนไทยทุกคนช่วยกันติดตาม เพราะมีปัญหาทุกประเทศ ทุกภูมิภาค และการเจริญเติบโตของจีดีพีของทุกประเทศลดลงจากที่ประมาณการณ์ไว้ทั้งหมด เกือบทุกประเทศได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนต่าง ๆ ซึ่งหลายประเทศมีปัญหา แต่ประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถพยุงได้อยู่
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้น เป็นธรรมดาที่มีขึ้นมีลง มีช่วงไฮซีซั่นและโลว์ซีซั่น ซึ่งเราได้หามาตรการเสริม เช่น การท่องเที่ยวในชุมชนหรือการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ โดยวันนี้การท่องเที่ยวและการบริการยังเดินหน้าไปได้