ครม.เห็นชอบปรับเงื่อนไขปล่อยกู้ “พิโกไฟแนนซ์” ขยายวงเงินกู้สูงสุดเป็นรายละ 1 แสนบาท ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 5 หมื่นบาทหลัง เหลือ 28% ต่อปี
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบการปรับปรุงเงื่อนไขการปล่อยกู้ของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ หรือสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในปัจจุบัน
สำหรับเงื่อนไขการปล่อยกู้ใหม่ กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ที่ต้องการปล่อยกู้ให้ประชาชน รายละ 1 แสนบาท ต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และกำหนดอัตราดอกเบี้ยในการปล่อยกู้วงเงิน 5 หมื่นบาทแรก ที่อัตรา 36% ต่อปี และวงเงิน 5 หมื่นบาทถัดมา คิดอัตราดอกเบี้ย 28% ต่อปี จากเดิมที่กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท และปล่อยสินเชื่อได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี
“การปล่อยสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ภายใต้เงื่อนไขใหม่ จะไม่ส่งผลกระทบต่อปัญหาหนี้ครัวเรือน เพราะเป็นการแปลงหนี้นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบเท่านั้น และคาดว่าจะช่วยลดจำนวนผู้มีรายได้น้อยที่เป็นหนี้นอกระบบได้ 1.16 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีผู้มีรายได้น้อยที่เป็นหนี้นอกระบบตามข้อมูลลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยปี 2560 จำนวน 1.26 ล้านคน คิดเป็นมูลหนี้ 6.8 หมื่นล้านบาท”นายณัฐพรกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2559 – ก.พ.2562 มีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ 516 ราย ใน 66 จังหวัด เปิดดำเนินการแล้ว 382 ราย ใน 64 จังหวัด ขณะที่ยอดการปล่อยสินเชื่อตั้งแต่เดือนธ.ค.2559- ธ.ค. 2561 อยู่ที่ 5.6 หมื่นราย วงเงินสินเชื่อ 1.55 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยปล่อยกู้รายละ 2.75 หมื่นบาท