ศาลสั่งจำคุก ประธาน บ.เมก้าฯ พร้อมพวก กรณีสารเคมีรั่วไหลชั้นใต้ดิน ธ.ไทยพาณิชย์ รอลงอาญา 2 ปี และชดใช้เงินแก่ญาติผู้ตาย 2.1 ล้านบาท
ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ได้มีการนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทย์ยื่นฟ้องกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด กับพวกรวม 10 คน
กรณีที่คนงานได้มีการลงไปติดตั้งระบบดับเพลิงแบบไพโรเจน โดยใช้สารเคมีแอโรซอล ที่บริเวณชั้นใต้ดิน ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ก่อนที่ระบบดับเพลิง ได้ทำงานอัตโนมัติ ปล่อยสารเคมีออกมา ทำให้คนงานเสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บ 7 คนโดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า นาย ณ.พงษ์ สุขสงวน ประธานกรรม บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำเลยที่ 1 , นายอดิศร โฟดา กรรมการบริษัท จำเลยที่ 2 และ นายนายจิระวัฒน์ เปรมปรีด์ วิศวกร จำเลยที่ 3 และ บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำเลยที่ 9 มีความผิดฐานผู้ใดร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส สั่งจำคุกจำเลยที่ 1-3 คนละ 2 ปี รอลงอาญา คนละ 2 ปี และให้ปรับจำเลยที่ 9 ซึ่งเป็นบริษัท 20,000 บาท และให้จำเลยร่วมกันชดใช้เงินแก่ญาติผู้ตาย 3 รายที่เป็นโจทก์ร่วมด้วย รวม 2.1 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันเกิดเหตุ 13 มี.ค.2559 ส่วนจำเลยที่เหลือ พิพากษายกฟ้องสืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มี.ค 2559 จำเลยที่ 1,2 ได้ให้พนักงานบริษัท เมก้า ฯ จำเลยที่ 9 ติดตั้งระบบดับเพลิงแบบไพโรเจน โดยใช้สารเคมีแอโรซอล ที่ห้องเอกสาร ชั้น บี ประตู 5 บริเวณชั้นใต้ดิน ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ โดยใช้สว่านไฟฟ้าเจาะกำแพงฝาผนังจนเกิดแรงสั่นสะเทือน ระบบดับเพลิงทำงานปล่อยสารเคมีแอโรซอลจนฟุ้งกระจาย ทำให้คนงานสูดดมสารเคมี จนถึงแก่ความตาย 8 คน และทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ 7 ราย
ทั้งนี้ภายหลังคำพิพากษา นายณ.พงศ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน โดยให้เหตุผลเพียงว่า ยังต้องรอกลับไปหารือกับทางบริษัทก่อน ยังบอกไม่ได้ว่าจะพิจารณาเรื่องการเยียวยาใดๆ
เพิ่มเติมนอกเหนือจากคำพิพากษาให้กับเหยื่ออีกหรือไม่
ขณะที่ด้านนายสมชาย โพธิ์เมือง ลูกเลี้ยงนายวิรัตน์ ดีดพิณ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ ยอมรับว่า เงินเยียวยาตามคำพิพากษาไม่เพียงพอต่อรายจ่ายของคนในครอบครัว เพราะทุกวันนี้มีภาระค่ารักษาพยาบาลมารดาที่ป่วยเป็นเบาหวาน / ค่าเล่าเรียนบุตร และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน ซึ่งหลังจากที่บิดาเสียชีวิต น้องสาวก็ต้องลาออกจากแผนการเรียนปกติ มาเรียนการศึกษานอกโรงเรียน เพื่อจะมีเวลาดูแลมารดาด้วย
ส่วนเรื่องคดีหลังจากนี้ตั้งใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ซึ่งต้องเริ่มหาทนายคนใหม่ที่ถอนตัวไปทันทีหลังศาลพิพากษา โดยอาจจะขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความให้ช่วยจัดหาทนายดูแลคดีนี้ต่อไป