จากกรณีคลิปจากกล้องวงจรปิดปรากฎภาพ หญิงเสื้อลาย กดเอทีเอ็มหน้าธนาคารแห่งหนึ่งในเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งผู็เสียหายเป็น ยาย วัย 78 ปี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดยผู็เสียหายได้เข้าแจ้งความกับ สภ.บ้านไผ่ แล้วนั้น
วันนี้ (12 เม.ย.) เวลา 13.00 น. ที่ สภ.บ้านไผ่ พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ทำการสอบสวน นางระเบียบ พิมแสน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 ม.3 ต.กุดเพียขอม อ.ชนบท จ.ขอนแก่น หญิงเสื้อลายที่ปรากฏในคลิปขณะกดเอทีเอ็มหน้าธนาคาร ดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวน พ.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หญิงเสื้อลายราย ให้การรับสารภาพว่า ขณะเดินอยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม หน้าธนาคารดังกล่าว ก็พบกับผู้เสียหายซึ่งเดินหาคนกดเอทีเอ็มให้ จึงรับบัตรเอทีเอ็มจากผู้เสียหายไป และ วานให้หญิงคนใส่เสื้อแดงกดเงินให้ ยาย อีกที โดยจะดูยอดเงินก่อน และ จึงกดเงินออกมา 4,000 บาท ต่อจากนั้นยื่นเงินให้ยาย 2,500 บาท ตัวเองเอาไป 1,500บาท โดยบอกว่าเงินจำนวน 1,500บาท ผู้เสียหายทำหล่น จึงเก็บเอาไว้ และพร้อมที่จะคืนเงินให้ผู้เสียหายครบตามจำนวนที่เอาไป โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ ส่วนที่ว่าจะเจตนาหรือไม่นั้น ไปว่ากันที่ชั้นศาล เพราะเป็นคดีอาญา
ต่อมาเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน นางทองจันทร์ รุนหอม อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เดินทางมาที่ สภ.บ้านไผ่ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน เล่าว่า ยาย ไปกดเเงินคนเดียว แต่ กดเงินไม่ออก จึงไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบรหัส หลังจากนั้นก้กลับออกมาเพื่อกดเงินโดยวานให้ คน ที่ทำธุระบริเวณหน้าตู้กดเงินให้ ซึ่งหญิงเสื้อลาย จึงอาสากดเงินให้
“ หญิงเสื้อลาย ได้ให้หญิงเสื้อแดงกดเิงนให้ และสั่งให้กดเงินออกมา 4,000บาท ยายจึงรีบตะโกนบอกว่า พอแล้ว ยายต้องการแค่เงินประชารัฐกับเงินผู้สูงอายุรวม 700 บาทเท่านั้น แต่ก็ไม่ฟัง ยายจึงรีบไปบอกเจ้าหน้าที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้แจ้งความกับตำรวจ กระทั่งตำรวจจับตัวหญิงใส่เสื้อลายได้”
ขณะที่นางสาว รุ่งอรุณ ชัยพร หญิงสาวคนใส่เสื้อสีแดงที่ปรากฏในคลิป กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไปทำธุระที่ธนาคาร เดินผ่านตู้เอทีเอ็ม ก็พบยายทองจันทร์ ยืนคุยอยู่กับคนใส่เสื้อลาย หลังจากนั้น คนใส่เสื้อลาย ก็ขอให้กดเงินให้ยาย 4,000 บาท ซึ่ง ตน คิดว่าเป็นแม่ลูกกันจึงทำการกดเงินให้ และก็ยื่นเงินให้ ตน 500บาท และบอกว่า ยายฝาก ให้ค่าน้ำใจที่ช่วยกดเงินให้ จึงรับไว้ ไม่คิดว่าจะเป็นการขโมยเงินของยาย ซึ่งหลังจากถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบสวน จึงได้รู้ความจริง และเงินที่ได้มาก็คืนให้ยายเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้คงต้องระวังมากขึ้น ในการที่จะช่วยเหลือใคร เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ ที่ไม่ถูกดำเนินคดี