“สรรพสามิต” ชงมาตรการภาษีลดฝุ่น PM 2.5 ให้รมว.คลังพิจารณาในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ย้ำเงื่อนไขลดภาษีรถยนต์อีวีเหลือ 2%
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯจะเสนอมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการลดฝุ่นละออง PM 2.5 ให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง พิจารณา ภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป โดยเบื้องต้นได้เสนอลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ลดฝุ่นละอองจากโรงงานผลิต ซึ่งสามารถลดฝุ่นละอองขนาดเล็กได้เทียบเท่ารถยนต์มาตรฐานยูโร 5
พร้อมกันนั้น กรมฯได้ประสานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์ดีเซลติดตั้งอุปกรณ์ลดฝุ่นละอองขนาดเล็กให้เทียบเท่ากับมาตรฐานยูโร 5 ให้เร็วขึ้น จากเดิมที่กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมออกมาตรการบังคับให้รถยนต์ที่ผลิตใหม่ทุกคันต้องได้มาตรฐานยูโร 5 ภายในปี 2564 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2560 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการลดภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 138) ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าว กำหนดให้รถยนต์นั่งแบบพลังงานไฟฟ้า (อีวี) ได้รับการลดภาษีสรรพสามิตลงเหลือ 2% แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ที่จะได้รับการลดภาษีดังกล่าว จะต้องได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ และยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ขอลดภาษี และทำข้อตกลงกับกรมสรรพสามิตก่อนผลิตรถภายในวันที่ 31 ธ.ค.2563
นอกจากนี้ ตั้งแต่ปีที่ 5 นับตั้งแต่ลงนามข้อตกลงฯจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2568 รถยนต์ไฟฟ้าทุกคัน ต้องใช้แบตเตอรี่ ที่ผลิตหรือประกอบจากผู้ที่ได้รับบัตรส่งเสริมฯประเภทลิเธียมไออน หรือนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ หรือแบตเตอรี่ประเภทอื่นที่สูงกว่า ขณะที่การลดภาษีสรรพสามิตดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึง 31 ธ.ค.2568
นายพชร ยังกล่าวว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบ 2562 (1 ต.ค.2561-31 ม.ค.2562) กรมจัดเก็บภาษีได้ 185,400 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1 หมื่นล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้า 5% อย่างไรก็ตาม ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา กรมจัดเก็บภาษีได้ 54,056 ล้านบาท สูงกว่าเป้า 78 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 0.15% ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีจากสุราเพิ่มขึ้น 3% เบียร์ เพิ่มขึ้น 9% ยาสูบ เพิ่มขึ้น 7% เครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 18% และรถยนต์ เพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่ภาษีจากน้ำมันลดลง 2%
“การจัดเก็บภาษีในเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น เป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง ยอดจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจะเพิ่มขึ้น และมั่นใจทั้งปีงบ 2562 กรมจะจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าที่กระทรวงการคลังตั้งไว้ที่ 584,000 ล้านบาท ในขณะที่เป้าหมายจัดเก็บรายได้ของกรมอยู่ที่ 622,000 ล้านบาท”นายพชรกล่าว