วันเลือกตั้งชัดเจน! หนุนดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคม.ค. เพิ่มครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค. เพิ่มครั้งแรกรอบ 5 เดือน หลังวันเลือกตั้งชัดเจน-สงครามการค้าคลี่คลาย-นักท่องเที่ยวจีนกลับมา คาดช่วงวันมาฆบูชาปีนี้ เงินสะพัด 2.6 พันล้านบาท เหตุคนทำบุญเพิ่ม เพราะรู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดี

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนม.ค.2562 อยู่ที่ระดับ 80.7 เพิ่มจากระดับ 79.4 ในเดือน ธ.ค.2561 และเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากความชัดเจนของวันเลือกตั้ง 24 ม.ค.2562 สงครามการค้าสหรัฐและจีนที่เริ่มคลี่คลาย และนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาเที่ยวประเทศไทย หลังจากภาครัฐออกมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า

นอกจากนี้ ดัชนีฯยังได้รับปัจจัยบวก จากการที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวที่ 4% เนื่องจากได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่ายภาคเอกชน ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุน ตลอดจนแรงส่งจากโครงการลงทุนภาครัฐ ขณะที่ราคาพืชผลทางการเกษตรบางรายการเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสินค้าปศุสัตว์ ทำให้เกษตรกรบางกลุ่มเริ่มมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยในหลายจังหวัดดีขึ้น

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 67.7 เพิ่มขึ้นจากระดับ 66.3 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ระดับ 75.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 74.6 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 98.7 เพิ่มขึ้นจากระดับ 97.3 ในเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค เช่น ความเสี่ยงของสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่จะมีผลกระทบเชิงลบต่อการส่งออกในอนาคต การส่งออกเดือนธ.ค.2561 ที่ติดลบ 1.72% ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น ความกังวลต่อสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเขตพื้นที่กทม.และปริมณฑล ราคาพืชผลทางการเกษตรส่วนใหญ่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และผู้บริโภคมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและยังกระจุกตัว

“ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่จะมีเม็ดเงินจากการเลือกตั้งที่น่าจะช่วยดึงให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ 0.3-0.5 % และทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1 น่าจะขยายตัวอยู่ที่ 3.5-4% ส่วนทั้งปี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัว 4-4.2%”นายธนวรรธน์กล่าว

นายธนวรรธน์ ระบุว่า ในส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ปีนี้นั้น คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด 3,700 ล้านบาท ลดลง 3.17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 2,318 บาท โดยมีสาเหตุจากสินค้ามีราคาแพงขึ้น เศรษฐกิจไม่ดี และคู่รักต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งการที่สังคมปรับเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้มีการแสดงความรักผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

ขณะที่พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันมาฆบูชาปีนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด 2,667 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.12% เมื่อเทียบกับปีก่อน และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 1,642 บาท ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เม็ดเงินสะพัดเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่ายิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ยิ่งต้องกลับมาทำบุญ และสินค้ามีราคาสูงขึ้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) วันนี้ (6 ก.พ.) ว่า กกร.เป็นห่วงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภาคส่งออก ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.4% ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากค่าเงินรูเปียะห์ของอินโดนีเซียที่แข็งค่าขึ้น 3.7% หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอขึ้นดอกเบี้ย

นอกจากนี้ กกร.ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2561 โดยคาดว่าจะขยายตัว 4.1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.3% เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนภาครัฐในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่ปรับตัวลดลง ส่วนปีนี้ กกร. คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4-4.3% ซึ่งเป็นผลจากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนยังขยายตัวได้ในระดับที่ดี ขณะที่ผลกระทบจากสงครามการค้า คาดว่าจะทำให้การส่งออกปีนี้ขยายตัว 5-7% จากปีที่แล้วที่ขยายตัว 6.7%

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า