“ศรีสุวรรณ” ตามไม่ปล่อย! ยื่นกกต.สอบ “ธนาธร” อีก พบพิรุธโอนหุ้น “วี–ลัคมีเดีย” ส่อนิติกรรมอำพราง ฟันขาดคุณสมบัติส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
5 เม.ย.62-นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน กรณียื่นร้องให้ตรวจสอบและวินิจฉัยเพื่อส่งให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ ในการสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีคุณสมบัติอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ภายหลังพบข้อพิรุธว่าการโอนหุ้นบริษัทวี–ลัคมีเดียอาจเป็นการอำพรางนิติกรรม รวมถึงเข้าให้ปากคำต่อกกต. กรณีที่เคยยื่นคำร้องให้ตรวจสอบการแถลงข่าวโอนทรัพย์สินไปให้trust หรือกองทุนเป็นผู้ดูแล โดยอ้างว่าไม่เคยมีนักการเมืองคนใดทำมาก่อนแต่ในความเป็นจริงมีนักการเมืองมากกว่า 20 คนโอนหุ้นไปให้กองทุนบริหารจัดการ ซึ่งการแถลงข่าวของนายธนาธร เป็นการสร้างภาพหลอกลวงจงใจบิดเบือนข้อมูล เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายธนาธรยังได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 62 ออกแถลงการณ์กรณีข้อสงสัยเรื่องการถือหุ้นของตนในบริษัทวี–ลัคมีเดียจำกัดการแถลงการณ์ดังกล่าว โดยอ้างว่าได้โอนหุ้นดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้นระหว่างนายธนาธรผู้โอนกับนางสมพร ผู้รับโอนฉบับลงวันที่8 ม.ค. พ.ศ. 2562 โดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคน พร้อมนี้ผู้โอนและผู้รับโอนกับพยานทั้งสองคน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง(ทนายความโนตารี) ในวันเดียวกันนี้คุณสมพรได้ชำระเงินค่าหุ้นให้แก่ผมด้วยเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) สาขาถนนบางนา–ตราด(เซ็นทรัลซิตี้) ขีดคร่อมผู้ถือ(A/C PAYEE ONLY) ฉบับลงวันที่8 มกราคมพ.ศ. 2562 สั่งจ่ายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเงินจำนวน 6,750,000 บาทแล้วนั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า แต่ยังไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมดว่าจะเป็นแถลงที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของกกต. ต้องทำความจริงให้ปรากฏ โดยเฉพาะยังมีข้อพิรุธและข้อสงสัยอีกมากมายที่สมาคมจำต้องนำความพร้อมข้อมูลไปร้องเรียนเพิ่มเติม ให้กกต.ไต่สวนสอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริง อาทิ ข้ออ้างว่ามีการจ่ายเช็คชำระเงินค่าหุ้นให้นายธนาธรและภรรยาแล้วนั้น มีการนำเช็คไปขึ้นเงินจริงหรือไม่ ในบัญชีธนาคารของคุณสมพรมีการถ่ายโอนเงินตามเช็คเข้าบัญชีของนายธนาธร และบัญชีภรรยาจริงหรือไม่ มีสเตทเม้นท์ยืนยันหรือไม่ เพราะการเขียนเช็คนั้นจะเขียนขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์นิติกรรมการเคลื่อนไหวทางบัญชีของทั้งสามคนว่าสอดคล้องต้องกันหรือไม่
“ยังมีประเด็นที่นายธนาธรอ้างว่าคุณสมพรได้โอนหุ้นต่อไปให้หลาน 2 คนตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2562 แล้วแต่เหตุใดหลานทั้ง 2 คนจึงโอนหุ้นกลับมาให้คุณสมพรอีกในวันที่ 21 มี.ค.2562 นิติกรรมเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และมีการชำระเงินกันจริงหรือไม่ มีสเตทเม้นท์ยืนยันระหว่างคุณสมพรกับหลานหรือไม่ และหลานทั้งสองมีอำนาจทำนิติกรรมได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้างตัวละครให้เป็นข้อมูลหรือพยานหลักฐานขึ้นมาใหม่ เพื่ออำพรางนิติกรรมของตนเอง หรือใช้เป็นข้ออ้างแก้ต่างกรณีถูกจับพิรุธในการประชุมกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 ว่าเหตุใดยังคงมีกรรมการจำนวน 10 คนมาประชุมกัน“นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ หากกกต.ตรวจสอบพบว่าการกระทำของนายธนาธรเข้าข่ายขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา98 (3) ประกอบมาตรา42(3) ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.หรือไม่ เพราะกฎหมายห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้งหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน หรือสื่อสิ่งพิมพ์หากขาดคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว นายธนาธรจะไม่สามารถเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคอนาคตใหม่ได้