สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 3.8% ปิดที่ 56.59 เหรียญสหรัฐ วิตกสงครามการค้า “สหรัฐ-จีน” รุนแรงเพิ่มขึ้น หลังจีนระงับซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐ
เมื่อคืนวันพฤหัส (30 พ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 56.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 2.22 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 3.8% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 66.87 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 2.58 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 3.7%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ลดลงเกือบ 4% และต่ำสุดในรอบ 2 เดือนหรือนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.2562 หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค.2562 ลดลง 3 แสนบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยืดเยื้อ โดยล่าสุดมีรายงานว่า จีนได้ระงับการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐแล้ว และไม่มีแผนที่จะซื้อถั่วเหลืองล็อตใหม่จากสหรัฐอีก ส่งผลให้การขัดแย้งทางการค้ามีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุน จากกำลังการผลิตและส่งออกน้ำมันที่ลดลงของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร รวมถึงการส่งออกน้ำมันจากอิหร่านและเวเนซุเอลาที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ โดยในเดือนเม.ย.การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลงเหลือ 4 แสนบาร์เรล/วัน
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 31 พ.ค. ว่า เมื่อคืนวานนี้ (30 พ.ค.) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังตลาดมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ยังคงยืดเยื้อ โดย Bernstein Energy คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2562 จะเติบโตเพียงร้อยละ 0.7 หากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนดำเนินไปถึงขีดสุด
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดัน หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค.2562 ปรับตัวลดลงเพียง 282,000 บาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่กว่าระดับเฉลี่ย 5 ปี
ขณะที่ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านในเดือน พ.ค.2562 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 400,000 บาร์เรล/วัน หลังสหรัฐเข้มงวดกับมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน