สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งต่อวันที่ 3 ปิดที่ 62.58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังสหรัฐเตรียมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรน้ำมัน “อิหร่าน-เวเนซุเอลา”
เมื่อคืนวันอังคาร (2 เม.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ 62.58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.99 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดที่ 69.37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.36 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.5%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ ทำสถิติสูงสุดในปีนี้ และสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.2561 หลังมีรายงานว่ากำลังผลิตน้ำมันของรัสเซียลดลงมาอยู่ที่ 11.3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. หรือลดลงจากเดือนก่อน 112,000 บาร์เรล/วัน เช่นเดียวกับกำลังผลิตของกลุ่มโอเปกอยู่ที่ลดลงเหลือ 30.40 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. ลดลงจากเดือนก่อน 280,000 บาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าสหรัฐกำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับที่ 4 ของกลุ่มโอเปก ในขณะที่การผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาได้หยุดดำเนินการอีกครั้ง เนื่องจากเกิดปัญหาด้านไฟฟ้า ท่ามกลางสถานการณ์ที่เวเนซุเอลากำลังถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ
ทั้งนี้ อุปทานน้ำมันดิบจากอิหร่านและเวเนซุเอลาที่หายไป ตลอดจนการดำเนินตามข้อตกลงในการลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 32% นับตั้งแต่ต้นปี
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 3 เม.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานนี้ (2 เม.ย.)ปรับเพิ่มต่อ หลังหลายฝ่ายกังวลกำลังการผลิตจากอิหร่านลดลงกว่าคาด เนื่องจากสหรัฐเผยแนวโน้มที่จะเพิ่มการคว่ำบาตร โดยอาจรวมถึงการไม่ยืดเวลาการยกเว้นการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านของ 8 ประเทศหลังเดือน พ.ค.และมีเป้าหมายให้การส่งออกน้ำมันดิบอิหร่านกลายเป็นศูนย์
ขณะที่เวเนซุเอลาประสบปัญหาไฟฟ้าขัดข้องที่ท่าเรือส่งออกน้ำมันมันดิบหลักของประเทศ นับเป็นครั้งที่สองในรอบหนึ่งเดือน ส่งผลให้การส่งออกน้ำมันดิบลดลง 650,000 บาร์เรล และเรือขนน้ำมันดิบหนึ่งลำค้างอยู่ที่ท่าเรือ นอกจากนี้ สหรัฐตั้งเป้าที่จะเพิ่มการคว่ำบาตรเวเนซุเอลาหลังเดือน พ.ค. โดยจะคว่ำบาตรบริษัททั้งในและนอกประเทศที่ทำการซื้อขายหรือทำธุรกิจกับประเทศเวเนซุเอลา
อย่างไรก็ตาม ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรลแตะระดับ 451.7 ล้านบาร์เรล สวนทางที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงราว 425,000 บาร์เรล สาเหตุหลักมาจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น