สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดเล็กน้อย ปิดที่ 61.66 เหรียญสหรัฐ กังวลสงครามการค้า “สหรัฐ-จีน” ยืดเยื้อ ขณะที่อุปทานน้ำมันในตลาดโลกยังคงตึงตัว
เมื่อคืนวันศุกร์ (10 พ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดที่ 61.66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.04 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.1% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 70.62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.23 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.3%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 25% จากเดิม 10% และสหรัฐเตรียมการที่จะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนอีกคิดเป็นมูลค่า 3.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว จากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก และการที่สหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาและอิหร่าน รวมถึงความขัดแย้งในลิเบีย ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียยังไม่มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตก่อนเดือนมิ.ย.นี้
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13 พ.ค. ว่า เมื่อคืนวันศุกร์ (10 พ.ค.) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงยืดเยื้อ แต่ยังได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดิบที่ยังคงตึงตัวจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
ประกอบกับอุปสงค์ในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐกลับมาดำเนินการผลิตหลังจากหยุดในช่วงปิดซ่อมบำรุง
ขณะที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติในประเทศจีน 2 แห่ง เตรียมหยุดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน หลังสหรัฐประกาศยุติมาตรการผ่อนผันการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านให้แก่ 8 ประเทศ เนื่องจากกังวลว่าสหรัฐ จะทำการคว่ำบาตรทางการเงินต่อบริษัทที่นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน
ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศใช้มาตรการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 2แสนล้านเหรียญสหรัฐ สู่ระดับ 25% จาก 10% ในวันที่ 10 พ.ค.2562 และเตรียมเริ่มกระบวนการเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ต่อสินค้านำเข้าที่เหลือทั้งหมดจากจีนซึ่งมีมูลค่าราว 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อกดดันจีนให้ปฏิบัติตามข้อตกลงทางการค้า