สัญญาน้ำมันดิบ WTI บวก 0.9% ปิดที่ 59.14 เหรียญสหรัฐ หลังเกิดน้ำท่วมในสหรัฐ ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบยังคงตึงตัว
เมื่อคืนวันอังคาร (28 พ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 59.14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.51 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนก.ค. อยู่ที่70.11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน เนื่องจากตลาดปิด
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังเกิดฝนตกหนักในรัฐอาร์คันซอและบางส่วนของรัฐโอคลาโฮมา ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยฝนที่ตกหนักและน้ำท่วมดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลน้ำมันดิบคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา รวมถึงการขนส่งน้ำมันดิบในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว เนื่องจากกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร ลดกำลังการผลิตน้ำมันมาตั้งแต่เดือนม.ค.จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างสหรัฐและอิหร่านที่เพิ่มขึ้น และน้ำมันดิบส่วนใหญ่จากอิหร่านและเวเนซุเอลาหายไป จากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 29 พ.ค. ว่า เมื่อคืนวานนี้ (28 พ.ค.) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์น้ำท่วมในแถบภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐ อันเนื่องมาจากฝนตกหนัก ส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันดิบของสหรัฐ บริเวณแหล่งส่งออกน้ำมันดิบคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา
ขณะเดียวกัน น้ำมันดิบของโลกยังคงตึงตัว จากการปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มโอเปกพลัส สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา
ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสจะมีการเจรจาอีกครั้งในวันที่ 25-26 มิ.ย.2562 เพื่อหารือถึงนโยบายการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม ซึ่งยังคงมีความไม่แน่ชัดในส่วนของการปรับลดการผลิตของกลุ่มที่จะขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังมีแนวโน้มรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมันโลก