“บินไทย” พร้อมพันธมิตร “ปตท.” ประกาศถอนตัว ไม่ยื่นซองประมูล “สนามบินอู่ตะเภา” 2.9 แสนล้านบาท ชี้จำเป็นต้องใช้เงินจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 1.6 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯได้เข้าร่วมซื้อซองโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 2.9 แสนล้านบาท ซึ่งมีเอกชนเข้าซื้อซองซองถึง 42 บริษัทนั้น ในส่วนของการบินไทยนั้น จากที่ได้หารือกับพันธมิตร เช่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แล้ว ล่าสุดบริษัทฯ จึงตัดสินใจว่าจะไม่ยื่นซองประมูลในวันที่ 21 มี.ค.นี้
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ เห็นว่าในระยะใกล้ จะมีการลงทุนจัดหาฝูงบินใหม่ จำนวน 38 ลำ วงเงิน 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งได้เสนอไปให้คณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาแล้ว ดังนั้น บริษัทฯจะต้องพิจารณาในการลงทุนที่เหมาะสม โดยขณะนี้มองว่าการจัดหาเครื่องบิน เพื่อนำมาเพิ่มศักยภาพการให้บริการ มีความสำคัญมากกว่าการลงทุนธุรกิจสนามบินเมืองการบินอู่ตะเภา
นอกจากนั้น ยังเห็นว่าในอนาคต หากการบินไทยสนใจ ก็ยังสามารถจะเข้าไปร่วมในธุรกิจสนามบินอู่ตะเภาในภายหลัง โดยเฉพาะในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น การให้บริการภาคพื้น, คาร์โก้ และ ครัวการบิน ซึ่งเป็นงานบริษัทฯที่มีความถนัดในภายหลังได้
“การพัฒนาบริหารสนามบินเป็นโครงการที่ดีมาก แต่ต้องมีพันธมิตรร่วมทุนด้วยกัน วันนี้หากบริษัทฯ จะไปลงทุนคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนอาจจะยังไม่เหมาะ ซึ่งทั้งการบินไทยและ ปตท.ได้ข้อยุติว่าไม่ยื่นประมูลด้วยกันทั้งคู่”นายสุเมธระบุ
นายสุเมธ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO) ซึ่งบริษัทฯได้ลงนาม MOU ร่วมทุนกับทางแอร์บัส ว่า จะมียื่นข้อเสนอลงทุนในวันที่ 22 มี.ค.ก่อน ซึ่งเป็นการเปิดยื่นข้อเสนอแบบเฉพาะเจาะจง หากแอร์บัสยอมรับเงื่อนไขในทีโออาร์ได้ก็จะเดินหน้าความจัดตั้งบริษัทร่วมทุนต่อไป แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ในขณะที่ธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานฯ จะเป็นอีกธุรกิจใหญ่ของการบินไทยในอนาคต