วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. ประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เกินมาตรฐานในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองร่วมกัน
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้อธิบายในที่ประชุมเบื้องต้น ว่า ก่อนหน้านี้ได้ประชุมร่วมกับ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ระหว่างเดือน ธ.ค. 2561 ถึง เม.ย. 2562 เบื้องต้นได้คุยกับทาง กทม. เสนอให้พ่นน้ำและคุมพื้นผิวการจราจร และระยะต่อไปได้คุยกับผู้ประกอบการรถยนต์ และกระทรวงพลังงาน ในเรื่องการปรับเปลี่ยนน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์
สำหรับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากการศึกษาวิเคราะห์พบว่า 50-60% เกิดจากรถปิกอัพ รถบรรทุก รถประจำทาง ขสมก. ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ที่มีการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ อีก 35% เกิดจากการเผาในที่โล่ง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ ได้หารือกับกรุงเทพมหานคร โดยมีมาตรการสั่งห้ามเผาในที่โล่ง 2 เดือน พร้อมกับ 5 จังหวัดปริมณฑล เช่น สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม ที่เหลือประมาณ 5-10% เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม และการปลิวมาจากที่อื่น
นอกจากนี้ต้นเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากยานพาหนะ ทางกรมควบคุมมลพิษและ บก.จร. ได้เข้าไปตรวจวัดควันดำ และบังคับใช้กฎหมายกับรถใหญ่ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกเสนอให้เข้มงวดเรื่องเวลาห้ามรถที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ขนส่ง เข้าเมืองตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบายว่า กรมอุตุนิยมวิทยาให้ข้อมูลว่า ปริมาณความกดอากาศสูง กทม.เหมือนอยู่ในโดม 1.5 กิโลเมตรจากพื้นผิวขึ้นไป เมื่อฝุ่นละออง PM 2.5 มีขนาดเล็ก 20 เท่าของปลายเส้นผม และไม่สามารถลอยไปทะลุโพรงนี้ได้ จากการสังเกตพบว่าเมื่อวันที่ 28-29 ธ.ค. 2561 มีฝนตกลงมา หลังจากนั้นวันหยุดยาวอากาศคุณภาพดี ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ต่ำกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่หลังจากนั้น วันที่ 9-10 ม.ค. 2562 ค่าฝุ่นละอองกลับสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศวันนี้จากสถานีบนถนน 25 จุด และสถานีด้านในจากถนนอีก 18 จุด ไม่มีสีแดงขึ้นจึงคาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น