ผู้ส่งออก ชี้ “ปีทองชาวนา” เปลือกหอมมะลิพุ่งตันละ 18,000 บาท

สมาคมผู้ส่งออกข้าว ลั่นปีทองชาวนา หลังราคาข้าวเปลือกหอมมะลิพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะตันละ 18,000 บาท มั่นใจปีนี้ไทยส่งออกข้าว 11 ล้านตัน โกยรายได้ 1.8 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของชาวนา โดยเฉพาะชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลิ ล่าสุดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยข้าวเปลือกแห้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1.7-1.8 หมื่นบาท เพิ่มขึ้น 35-40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุจากผลผลิตฤดูกาลนี้มีไม่มากนักและพื้นที่ปลูกข้าวลดลง

“ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ตันละ 1.7-1.8 หมื่นบาท เทียบกับต้นฤดูปีที่แล้วที่ราคาอยู่ที่ตันละ 1.2-1.4 หมื่นบาท ซึ่งมีสาเหตุจากผลผลิตที่ลดลงเหลือ 8 ล้านตันข้าวเปลืออก ประกอบกับพื้นที่ทำนาค่อยๆลดลง หลังจากเกษตรกรหันไปปลูกอ้อยเพื่อป้อนวัตถุดิบแก่โรงงานน้ำตาล ที่สำคัญโรงสีแย่งกันซื้อข้าวหอมมะลิต้นฤดูกาลเพื่อแนะนำลูกค้าในต่างประเทศ”ร.ต.ท.เจริญกล่าว

นอกจากนี้ มาตรการจำนำข้าวเปลือกที่ยุ้งฉางของรัฐบาล ซึ่งให้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท และค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 12 ไร่ หรือไม่เกิน 18,000 บาท นั้น มีผลทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในตลาดปรับเพิ่มขึ้นด้วย

ร.ต.ท.เจริญ ระบุว่า ขณะนี้เวียดนามมีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารูปลักษณ์จะไม่สวยเท่าข้าวหอมมะลิไทย แต่มีความหอมและนุ่ม ประกอบกับราคาขายอยู่ที่ตันละ 600 เหรียญสหรัฐ ถูกกว่าข้าวหอมมะลิไทยที่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 1,100 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นประเด็นที่น่ากังวลว่า ข้าวหอมมะลิไทยจะแข่งขันได้ยาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชนิดคัดพิเศษ ฤดูกาลผลิต 2561/62 ราคาส่งออก (F.O.B.) พุ่งไปอยู่ที่ตันละ 1,163 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าสัปดาห์ก่อน (31 ต.ค.) ที่ราคาอยู่ที่ตันละ 1,150 เหรีย

ร.ต.ท.เจริญ ยังกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-23 ต.ค.2561 ไทยส่งออกข้าวได้ 8.74 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.1% และมั่นใจว่าทั้งปีไทยจะส่งออกข้าวได้ 11 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.84 แสนล้านบาท เนื่องจากผลผลิตข้าวในหลายประเทศลดลงและต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศในแถบแอฟริกา รวมถึงการส่งออกข้าวจีทูจีให้จีนที่มีต่อเนื่อง

สำหรับปี 2562 คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 10 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2561 เพราะปีนี้ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียนำเข้าข้าว เพื่อสำรองไว้บริโภคในประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้ปีหน้าคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะลดการนำเข้าข้าวเหลือไม่ถึง 3 ล้านตัน ขณะที่จีนมีข้าวขาวเก่าในสต๊อก 113 ล้านตัน ซึ่งจีนสามารถนำข้าวเหล่านี้ส่งออกไปตลาดแอฟริกาในราคาต่ำกว่าไทยมาก

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า