แกนนำ “พปชร.” ขอบคุณชาวสงขลา-ภาคใต้ เทคะแนนให้จนได้ว่าที่ส.ส. 13 คน “สุวิทย์” บอกว่าที่ส.ส. อย่าเพิ่งวิตกกังวลการจัดตั้งรัฐบาลมากเกินไป ต้องให้ความสำคัญกับงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกก่อน
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และกรรมการบริหารพรรค คือ ดร.สันติ กีระนันท์ ,ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ และนายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ พร้อมด้วยว่าที่ ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ขึ้นรถแห่กล่าวขอบคุณประชาชนชาว จ.สงขลา ที่ให้การสนับสนุน พปชร.จนทำให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชนะการเลือกตั้งใน จ.สงขลาถึง 4 เขต และพรรคยังได้ว่าที่ส.ส.รวม 13 คนในพื้นที่ภาคใต้ จากที่ส่งผู้สมัครส.ส.ลง 50 เขตในภาคใต้
ทั้งนี้ นายสุวิทย์ ประกาศความพร้อมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อนำความสงบสู่ภาคใต้และทั้งประเทศ พร้อมทั้งสัญญาว่าจะเดินหน้าทุกนโยบายที่ประกาศไว้ รวมทั้งขอบคุณประชาชนชาวสงขลาและภาคใต้ที่สนับสนุน “นายกลุงตู่” หรือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อไป อย่างไรก็ตาม ในระหว่างขึ้นรถแห่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่นั้น เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด เป็นบริเวณกว้าง สร้างความหวังกำลังใจและความมั่นใจกับทีมพรรคเป็นยิ่งขึ้น
ต่อมาในช่วงบ่าย นายสุวิทย์ ได้พบปะกับว่าที่ส.ส.และผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ทั้ง 50 เขต และกล่าวตอนหนึ่งว่า อย่าเพิ่งวิตกกังวลการจัดตั้งรัฐบาลมากเกินไป ช่วงนี้ควรให้ความสำคัญกับงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกก่อน หลังจากนั้นการดำเนินการจะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนหลังการเลือกตั้ง เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ทั้งรัฐบาลและพปชร.จำเป็นต้องสร้างผลงานให้เกิดอย่างรวดเร็ว และสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่
“อยากให้ทุกท่านเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ถัดจากนี้ไปต้องไม่นิ่งนอนใจ แม้ว่า พปชร. จะประสบความสำเร็จจากการทำงานในระยะเวลาไม่นานนัก พปชร. ออกตัวได้ดี ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคใต้ ซึ่งเป็นการเติมเต็มให้เห็นว่า พปชร. เป็นพรรคที่เป็นสถาบัน และมีตัวแทนจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย ภาคใต้ยังมีอีก 17 เขตเลือกตั้งที่แม้จะไม่ชนะ แต่เป็นที่ 2 แบบมีศักยภาพ และมีเขตอื่นๆที่เรายังต้องเติม”นายสุวิทย์กล่าว
นายสุวิทย์ กล่าวว่า พปชร.จะใช้สถาบันปัญญาประชารัฐ เป็นสถาบันที่ดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้พรรคและทีมภาคใต้ ส่วนผู้สมัครที่ไม่ได้เป็น ส.ส.นั้น ก็ยังมีงานของ พปชร. ที่อยากให้ช่วยกันทำ เพื่อประโยชน์ของภาคใต้และประทศ
