“พาณิชย์” ประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก พร้อมหั่นเป้าส่งออกปีนี้เหลือเติบโต 3% เหตุเจอผลกระทบสงครามการค้า เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่ “สมคิด” สั่งเจาะตลาด “อินเดีย-จีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน-ญี่ปุ่น-อาเซียน”
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยหลังการมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า กรมฯปรับลดเป้าหมายการส่งออกในปีนี้เหลือเติบโตเพียง 3% จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโต 8% ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของไทยหดตัว 1.9% และหากจะผลักดันให้การส่งออกในปีนี้เติบโตได้ 3% การส่งออกในช่วง 8 เดือนที่เหลือของปีนี้ จะต้องมีมูลค่าส่งออกอยู่ที่เฉลี่ย 21,000-22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน หรือเติบโตเดือนละ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งกรมฯจะต้องผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้เป็นไปตามเป้า โดยเชื่อว่าการส่งออกในช่วงจากนี้ไปคงไม่เลวร้ายเหมือนกันช่วง 4 เดือนแรก ในขณะที่การส่งออกไปตลาดหลักๆยังเติบโตได้ดี
“ในช่วง 8 เดือนสุดท้าย เราจะใส่ความพยายามให้มากที่สุด เพื่อผลักดันให้การส่งออกเติบโตได้เดือนละ 5% ซึ่งจะทำให้การส่งออกทั้งปีเติบโตได้ 3%”น.ส.บรรจงจิตต์ระบุ
ด้านนายสมคิด กล่าวว่า ตนรับทราบเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ปรับลดเป้าหมายส่งออกปีนี้เหลือเติบโตเพียง 3% แล้ว และได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์นำแผนเจาะตลาดส่งออกเป็นรายภูมิภาค ซึ่งรวมถึงเมืองรอง ไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะตลาดตลาดอินเดีย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น รวมถึงมุ่งเน้นการส่งออกไปตลาดอาเซียนให้มาก เพราะมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าถูกที่สุด และแบรนด์สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับ