ปิดประตู ! “ภูมิธรรม” ค้าน “รัฐบาลแห่งชาติ” อัดกติกาพาไปทางตัน บีบ“กกต.” เร่งประกาศผลเลือกตั้ง
16 เม.ย.62-นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “วาทกรรมเรื่อง…รัฐบาลแห่งชาติ” โดยระบุว่า สถานการณ์การเมืองในสังคมไทยกำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกทำให้เข้าใจว่าเรากำลังจะก้าวไปสู่ทางตันในขณะที่การเลือกตั้ง…อันเป็นวิถีทางที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้ฝากความหวัง และแสดงออกเพื่อสะท้อนเจตนารมณ์ของตน กลับไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ เพราะการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ การเลือกตั้งครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่มาราธอนมากครั้งหนึ่งจนถึงวันนี้ลุล่วงมากว่า 3 สัปดาห์ กกต.ยังไม่สามารถสรุปวิธีคำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ ทั้งๆที่กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และพรป.เลือกตั้งมาตรา 128 ได้ตราไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนถึงวิธีการคำนวณจำนวนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
ประเด็นสำคัญประการหนึ่งที่นักกฎหมายฝ่ายผู้มีอำนาจ และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องหลายองค์กร ทำเป็นไม่เข้าใจหรือละเลยที่จะพิจารณาก็คือ “ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร” ดังนั้น เมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญระบุเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่าการได้มา ซึ่งระบบส.ส.บัญชีรายชื่อจะได้มาอย่างไร พร้อมทั้งมีการกำหนดวิธีการได้มาด้วยการคำนวณเป็นขั้นตอนในวรรคต่างๆทั้งมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญและวรรคต่างๆของมาตรา 128 ของพรป.เลือกตั้ง หาก กกต. ปฎิบัติอย่างตรงไปตรงมา และตีความตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกระบวนการ และกลไกต่างๆก็จะเดินไปตามครรลองไม่มีปัญหาใดๆ มาให้เราครุ่นคิดเรื่อง“ทางตัน” แต่อย่างใด
หากเราพิจารณาด้วยดุลยพินิจจะเห็นว่า ทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นตั้งแต่กติกาของรัฐธรรมนูญ และกระบวนการเลือกตั้งทั้งปวงล้วนจงใจออกแบบมาให้เกิดความยุ่งยาก และมีปัญหามาตั้งแต่ต้นทาง อันนำมาสู่ปัญหาทั้งปวงที่ไม่รู้จบความจงใจในการเบียดขับพรรคการเมืองที่ไม่ใช่พวกพ้องตน การแสดงออกด้วยความละเลยเมินเฉยในการรับฟังเสียง และเหตุผลของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งพรรคการเมืองนักวิชาการสถาบันการศึกษาองค์กรเคลื่อนไหว เพื่อประชาธิปไตยต่างๆ กำลังส่งสัญญาณที่ชวนให้เกิดความคลางแคลงใจว่า กกต. มีเป้าหมายหรือนัยยะซ่อนเร้นอย่างใดหรือไม่ และผลกระทบที่จะตามมาต่อประเทศจะเสียโอกาสทางเศรษฐกิจสังคมไปอีกยาวนานเพียงใด
เมื่อหลายฝ่ายส่งสารเกี่ยวกับวาทกรรม “รัฐบาลแห่งชาติ” เพื่อหวังว่าจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาของ “ทางตัน” นี้ผมอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะการเดินทางบนเส้นทางประชาธิปไตยแม้จะพบปัญหาอุปสรรคใดๆ ก็ยังมีทางออกเสมอ ผมเชื่อว่าประชาธิปไตยโดยตัวของมันเอง มีทางออกและให้ทางเลือกที่ชวนให้เราใช้ความคิดปัญญาร่วมตัดสินใจเสมอ…ถ้าเพียงแต่บุคคล/คณะบุคคล/องค์กรอิสระและหรือองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ต่างมีความตระหนัก และมุ่งมั่นทำทุกขั้นตอนกระบวนการอย่างถูกต้องโปร่งใสไม่เห็นแก่ประโยชน์ของผู้ใด หรือพยายามเอาใจผู้มีอำนาจในปัจจุบัน…ถ้าการกระทำทั้งปวงมุ่งสร้างความชัดเจนให้เป็นที่ยอมรับของสังคมมิใช่พยายามตะแบง หรือพยายามหาทางออกที่นอกกฎเกณฑ์ และความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญการเบี่ยงเบนประเด็นโดยไม่รับฟังความคิดเห็น ยิ่งจะเป็นช่องทางที่นำไปสู่ทางตันกลับไปเดินถอยหลังในสถานการณ์เช่นในอดีตประเทศขาดประชาธิปไตยที่แท้จริง เกิดวงจรที่ทุกกลไกย่ำอยู่กับที่เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวโอกาสใหม่ และความก้าวหน้าของประชาชนติดตันอยู่กับหนทางที่ปิดล็อก
ผมจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีความพยายามจะทำให้เกิด“ทางตัน” ทั้งปวงและพยายามจะเสนอทางออกเรื่อง“รัฐบาลแห่งชาติ”โดยคิดว่าจะให้สังคมยอมรับเป็นทางเลือกที่จำเป็นของสังคมไทย…ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นความพยายามใดๆที่จะทำให้ทางออกเกิดขึ้นตามเงื่อนไขและกลไกประชาธิปไตย “กกต. และผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งปวงต้องทำงานอย่างโปร่งใสยึดถือความถูกต้องและผลประโยชน์ของสังคมส่วนรวมเป็นที่ตั้งแล้วประเทศจะมีทางออก”
“รีบประกาศผลการเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรมโดยเร็ว……ประเทศไทยยังมีทางออกและระบอบประชาธิปไตยยังเป็นความหวังที่สร้างทางออกร่วมกันอย่างเป็นจริง”