สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.7% ปิดที่ 53.66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังนักลงทุนวิตกเศรษฐกิจ “สหรัฐ-จีน-ยูโรโซน” ชะลอตัว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม 3.7 ล้านบาร์เรล
เมื่อคืนวันอังคาร (5 ม.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 53.66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.90 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1.7% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดที่ 61.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.53 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.9%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว หลังสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ คือ สหรัฐและจีน รายงานข้อมูลการจัดซื้อของภาคโรงงานที่อ่อนแอ ล่าสุดสถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐ (ISM) เผยว่า ดัชนีภาคบริการสหรัฐลดลงมาอยู่ที่ 56.7 ในเดือนม.ค.จากระดับ 57.6 ในเดือนธ.ค.
ขณะที่โพลล์สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งทางสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (6 ม.ค.) จะเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายระหว่างวัน สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยบวก หลังมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 30.98 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 890,000 บาร์เรล/วันจากระดับของเดือนธ.ค.2561
ทั้งนี้ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียได้ลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนม.ค. ซึ่งจะทำให้ซาอุดีอาระเบียลดกำลังการผลิตรวม 10.1 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะที่ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่า อุปทานน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปกลดลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี นำโดยซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรอ่าวอาหรับ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองในเวเนซุเอลาอย่างใกล้ชิด โดยก่อนหน้านี้สหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา คือ บริษัท ปิโตรเลออส เดอ เวเนซุเอลา (PDVSA) ซึ่งจะมีผลทำให้อุปทานน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาลดลง
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 6 ม.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ปรับตัวลดลงต่อ หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงในสหรัฐ และยูโรโซน เนื่องจากดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจบ่งชี้สภาพเศรษฐกิจที่อาจซบเซากว่าที่คาดการณ์ไว้
ขณะที่สถาบันปิโตเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐปรับเพิ่มราว 2.5 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มราว 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮม่า ปรับเพิ่มขึ้น 889,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ซื้อน้ำมันดิบที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ชะลอการซื้อลงเนื่องจากน้ำมันดิบมีมูลค่าสูงขึ้น
นอกจากนี้ น้ำมันดิบจากเวเนซุเอลากว่า 7 ล้านบาร์เรลถูกปล่อยให้ค้างอยู่ในเรือขนน้ำมันที่อ่าวเม็กซิโก เนื่องจากสหรัฐประกาศการคว่ำบาตรเวเนซุเอลา ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดี Nicolas Maduro โดยน้ำมันดิบดังกล่าวถูกซื้อมาก่อนที่จะเกิดการคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การจ่ายค่าน้ำมันดิบส่วนนี้ยังคงถูกระงับ ส่งผลให้ traders และบริษัทขนส่งน้ำมันยังไม่ได้รับการชำระหนี้ โดยผู้ซื้อที่ยังต้องการซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลาจะต้องทำการฝากเงินในบัญชีกลาง อย่างไรก็ตาม บัญชีดั่งกล่าวยังไม่ได้ถูกดำเนินการเปิดขึ้นแต่อย่างใด
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 59-64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล