ราคาน้ำมันดิบร่วงเป็นวันที่ 11 WTI หลุด 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่กลุ่มโอเปก-กลุ่มนอกโอเปก ส่งสัญญาณลดกำลังผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน ด้านทรัมป์รกดดันซาอุฯไม่ควรลดกำลังผลิต
เมื่อคืนวานนี้ (12 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 11 แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปก เห็นพ้องกันว่า ควรลดการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า จากระดับของเดือนต.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะน้ำมันล้นตลาด
ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียจะลดการส่งออกน้ำมันลง 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนหน้า เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงตามฤดูกาล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐออกมาทวีตข้อความกดดันโอเปก โดยระบุว่า “ราคาน้ำมันควรจะปรับตัวลดลงมากกว่านี้เมื่อพิจารณาจากภาวะอุปทานน้ำมัน และหวังว่าซาอุดีอาระเบียและกลุ่มโอเปกจะไม่ปรับลดการผลิต”
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ 59.93 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.26 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.4% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 70.12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.06 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.09%
ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 70.53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.30 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.87%
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13 พ.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 11 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันมากที่สุดในประวัติการณ์ หลังทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทวีตข้อความว่า “ซาอุดิอาระเบียและผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตลง ดังนั้นราคาน้ำมันดิบควรปรับตัวลดลง หากดูที่ปัจจัยของอุปทาน”
โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย เนื่องจากซาอุดิอาระเบีย เผยว่า ผู้ผลิตกลุ่มโอเปกมีความเห็นตรงกันว่า ควรมีการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้าลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับในเดือน ต.ค. เพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันดิบ
หลังจากมองว่าปริมาณน้ำมันดิบอิหร่านที่ปรับลดลงจากผลของการคว่ำบาตรนั้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสหรัฐประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านสามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ในช่วง 180 วันแรกหลังการคว่ำบาตร
ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ระบุว่าจะลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ธ.ค. ลง 500,000 บาร์เรล/วัน จากเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็น 0.5% ของอุปทานน้ำมันดิบดิบโลก
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 58-63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 68-73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ อุปทานน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่อาจล้นตลาด หลังสหรัฐประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน และจับตาสงครามการค้าสหรัฐและจีนว่าจะหาข้อสรุปได้หรือไม่