ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงต่อเป็นวันที่ 8 ปิดที่ 60.67 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล นักลงทุนกังวลน้ำมันล้นตลาด หลังผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ผลิตน้ำมันเพิ่ม
เมื่อคืนวานนี้ (8 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ในปี 2562 การผลิตน้ำมันของสหรัฐจะอยู่ที่เฉลี่ย 12.1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสหรัฐผลิตน้ำมันได้ 11.6 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกขณะนี้
ขณะเดียวกัน รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย และบราซิล ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเช่นกัน ส่วนอิรัก อาบูดาบี และอินโดนีเซีย ส่งสัญญาณการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดในปีหน้า
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเกิดจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ในขณะที่ความอ่อนแอของค่าเงินเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจของหลายประเทศในเอเชีย
อย่างไรก็ดี นักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างสมาชิกกลุ่มโอเปก และชาติพันธมิตรของโอเปก ในวันอาทิตย์นี้ ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ 60.67 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1.6% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 70.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.42 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 2%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 71.41 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.93 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.3%
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 9 พ.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด หลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐแตะระดับ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะแตะระดับ 12 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในกลางปี 2562
นอกจากนี้ อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินโดนีเซีย ส่งสัญญาณว่าการผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศจะเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้า
นักลงทุนยังคงมีมุมมองขาลงต่อตลาดน้ำมันดิบ หลังสหรัฐออกมาตรการผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านให้แก่ 8 ประเทศเป็นเวลา 180 วัน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าอุปทานน้ำมันดิบโลกในปลายปีนี้จะอยู่ในสภาวะล้นตลาด
ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 32% จากเดือนก่อนหน้า ขึ้นมาแตะระดับ 9.61 ล้านบาร์เรล/วัน ทั้งนี้ จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และได้รับการผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ 3.6 แสนบาร์เรล/วัน ในช่วง 180 วันแรกของมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่า ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก อาจจะมีการประชุมหารือการลดระดับการผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้คงอยู่ได้ในระดับ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลฃ
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 58-63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 68-73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล