“คลัง” ชี้ลงทุนรัฐ-เลือกตั้งชัดเจน ดันเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 4% ขณะที่สงครามการค้าโลกกดส่งออกโตแค่ 4.5%
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัว 4% เนื่องจากได้รับแรงส่งจากโครงการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้โครงการร่วมลงทุนของภาครัฐและเอกชน (PPP) และความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง จะช่วยสนับสนุนให้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง โดยคาดว่าจะขยายตัว 4.5% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยที่ชะลอลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า และนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2562 จะอยู่ที่ 1% ลดลงจากปีก่อนหน้า ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง
“ในการประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ ผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ความผันผวนของตลาดการเงินโลกและอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งแนวโน้มการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว”นายลวรณกล่าว
สำหรับปี 2561 ที่ผ่านมา สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวที่ 4.1% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.9% โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการใช้จ่ายภาคเอกชน ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการจ้างงานที่ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน
นอกจากนี้ ความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐยังเป็นแรงสนับสนุนให้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง และนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงการตอบโต้จากประเทศต่างๆ คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าชะลอลงเล็กน้อย